รัฐสภาอิหร่านผ่านร่างพรบ.ขึ้นบัญชีกองทัพสหรัฐฯ เป็น ‘ผู้ก่อการร้าย’

อัลจาซีรา – ในวันอังคารที่ผ่านมา (23 เม.ย.) สมาชิกสภานิติบัญญัติของอิหร่านอนุมัติร่างกฎหมายที่ระบุให้  กองกำลังทหารสหรัฐฯ ทั้งหมดอยู่ในสถานะ “ผู้ก่อการร้าย”  หนึ่งวันหลังจากที่วอชิงตันเพิ่มแรงกดดันต่อเตหะรานโดยประกาศว่าจะไม่มีประเทศใดได้รับการยกเว้นจากการคว่ำบาตรของสหรัฐหากยังคงซื้อน้ำมันอิหร่าน

ร่างกฎหมายนี้เป็นย่างก้าวที่รุนแรงขึ้นจากหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งสมาชิกสภานิติบัญญัติอิหร่านได้อนุมัติให้ขึ้นบัญชีกองทหารสหรัฐฯ ในตะวันออกกลางเป็น “ผู้ก่อการร้าย” อันเป็นการตอบโต้ต่อการที่สหรัฐขึ้นบัญชีกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามของอิหร่าน (IRGC) ในฐานะกลุ่มก่อการร้ายเมื่อเดือนก่อนหน้านี้

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ สั่งแซงชั่นอิหร่านรวมถึงภาคพลังงานในเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วหลังจากถอนตัวจากข้อตกลงนิวเคลียร์ครั้งสำคัญระหว่างอิหร่านและมหาอำนาจโลก

การขึ้นบัญชีดำของสหรัฐต่อ IRGC  (ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในการขึ้นบัญชีต่อหน่วยงานของประเทศอื่น)  เป็นการเพิ่มแรงคว่ำบาตรอีกชั้นหนึ่งต่อกองกำลังทหารที่ทรงอำนาจ ทำให้กลายเป็นอาชญากรรมภายใต้เขตอำนาจศาลของสหรัฐฯ เพื่อตัดการสนับสนุนด้านวัตถุ-ยุทโธปกรณ์ต่อ IRGC

เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (22 เม.ย.) ฝ่ายบริหารของทรัมป์ประกาศว่า จะไม่ขยายมาตรการละเว้นคว่ำบาตรต่อประเทศที่นำเข้าน้ำมันอิหร่าน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการแคมเปญเพื่อเพิ่ม “แรงกดดันสูงสุด” ที่มีเป้าหมายเพื่อกำจัดรายได้จากการส่งออกน้ำมันของอิหร่าน

หลายชั่วโมงก่อนการประกาศของทรัมป์ อิหร่านได้เน้นย้ำคำขู่ที่จะปิดช่องแคบฮอร์มุซ เส้นทางส่งออกน้ำมันที่สำคัญ ประมาณหนึ่งในสามของการซื้อขายน้ำมันที่ผ่านทะเล

ในอดีต กองทัพเรือสหรัฐฯ กล่าวหาว่าเรือลาดตระเวนอิหร่านได้ก่อกวนเรือรบสหรัฐในเส้นทางน้ำแห่งนี้

ร่างกฎหมายดังกล่าวเป็นการยืนยันการขึ้นบัญชีก่อนหน้านี้ของอิหร่านต่อหน่วยบัญชาการกลางสหรัฐฯ หรือที่รู้จักกันในชื่อ CENTCOM และกองกำลังทั้งหมดเป็น “องค์กรก่อการร้าย”

ความช่วยเหลือทางทหารและที่ไม่ใช่ทางทหาร รวมถึงการสนับสนุนด้านโลจิสติกส์ แก่ CENTCOM ที่สามารถเป็นอันตรายต่อ IRGC จะถือเป็นการกระทำ “ก่อการร้าย” สำนักข่าว ISNA กึ่งทางการของอิหร่านราายงาน

ร่างกฎหมายดังกล่าวยังเรียกร้องให้รัฐบาลอิหร่านดำเนินการที่ไม่ระบุรายละเอียดต่อรัฐบาลอื่น ๆ ที่สนับสนุนการขึ้นบัญชีของทรัมป์ ทั้งนี้ซาอุดิอาระเบีย บาห์เรน และอิสราเอล ล้วนสนับสนุนการขึ้นบัญชีครั้งนี้ของทรัมป์

นอกจากนี้สภานิติบัญัติของอิหร่านยังขอให้หน่วยงานข่าวกรองของอิหร่านจัดทำรายชื่อผู้บัญชาการ CENTCOM ทั้งหมดภายในสามเดือน เพื่อให้ผู้พิพากษาของอิหร่านสามารถดำเนินคดีลับหลังกับพวกเขาได้ว่าเป็น “ผู้ก่อการร้าย”

ร่างกฎหมายนี้จะต้องได้รับการอนุมัติขั้นสุดท้ายตามรัฐธรรมนูญของอิหร่านเพื่อประกาศใช้เป็นกฎหมาย

IRGC มีกองกำลังและอิทธิพลในอิรัก ซีเรีย เลบานอน และเยเมน และรับผิดชอบขีปนาวุธอิหร่านที่มีฐานทัพสหรัฐฯ อยู่ในพิสัยทำการ

IRGC ยังดูแลโครงการขีปนาวุธและนิวเคลียร์ของอิหร่าน ฟังคำสั่งตรงจากผู้นำสูงสุด อายะตุลเลาะห์ อะลี คาเมเนอี  คาดว่าจะมีเจ้าหน้าที่ประมาณ 125,000 นาย ประกอบด้วย กองทัพบก กองทัพเรือ และหน่วยบัญชาการอากาศ