เจ้าหน้าที่อิสราเอลได้สรุปว่า กลุ่มต่อต้านในฉนวนกาซาตอนนี้มีศักยภาพเสมือฮิซบุลเลาะห์แห่งเลบานอน
เพรสทีวีสื่ออิหร่านรายงานอ้างอิงเวบไซต์วาลลา ( Walla) สื่ออิสราเอล ที่เปิดเผยรายงานใหม่จากผู้เชี่ยวชาญด้านการทหารของอิสราเอลที่ยืนยันหลังจากการวิจัยอย่างครอบคลุมพบว่า กลุ่มฮามาสและอิสลามิกญิฮาดมีศักยภาพที่จะยิงขีปนาวุธได้ถึง 1,000 ลูกต่อวัน ในกรณีที่มีความขัดแย้งในอนาคต
จำนวนดังกล่าวนับว่าสูงกว่ามากที่กลุ่มต่อต้านในฉนวนกาซายิงจรวดและขีปนาวุธเข้าไปยังอิสราเอลประมาณ 700 ลูกในระยะ 2 วันเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา
จำนวนจรวดดังกล่าวมากพอที่จะเอาชนะระบบขีปนาวุธของอิสราเอล และบังคับให้นายกรัฐมนตรีเบ็นจามิน เนทันยาฮู ต้องยอมรับข้อตกลงสงบศึกอีกฉบับหนึ่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
แต่การคุกคามนั้นไม่ได้จำกัดอยู่แค่ขีปนาวุธและจรวด พล.ต.เฮอร์ซี ฮาเลวี (Herzi Halevi) หัวหน้ากองบัญชาการกองทัพภาคใต้ของอิสราเอลยอมรับว่า กองกำลังของเขากำลังเตรียมพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับอาวุธหลากหลายชนิด รวมถึงขีปนาวุธต่อต้านรถถังแบบ Kornet โดรน และระเบิดบอลลูน
ฮามาสได้ใช้โดรนโจมตีอิสราเอลเป็นครั้งแรกในระหว่างการเผชิญหน้าเมื่อไม่นานมานี้ สื่อของอิสราเอลระบุว่าโดรนของฮามาสยิงขีปนาวุธใส่ขบวนทหารอิสราเอล แต่ขอบเขตของความเสียหายและการบาดเจ็บล้มตายยังไม่ถูกเปิดเผยชัดเจน
ความแม่นยำและอำนาจการทำลายล้างสูงเป็นปัจจัยอีกสองประการที่ทำให้เจ้าหน้าที่อิสราเอลและผู้เชี่ยวชาญทางทหารตื่นตระหนกหลังจากความขัดแย้งเมื่อเร็วๆ นี้
โยนิ เบน-เมนาเชม (Yoni Ben-Menachem) นักข่าวชาวอิสราเอลที่มีชื่อเสียงเขียนว่า อิสราเอลรู้สึกประหลาดใจต่อความแม่นยำและอำนาจของขีปนาวุธปาเลสไตน์ที่ล่าสุดกลายเป็นความจริง
“สิ่งที่น่าประหลาดใจเกี่ยวกับขีปนาวุธปาเลสไตน์ในสงครามสองวันคือพลังทำลายล้างของพวกเขา” คำพูดเขาอ้างถูกโดยสื่อปาเลสไตน์
ในช่วงที่ผ่านมา กองกำลังอัลกุดส์ซึ่งเป็นปีกติดอาวุธของขบวนการอิสลามิกญิฮาดของมปาเลสไตน์ได้เปิดเผยขีปนาวุธในประเทศล่าสุดโดยการยิงใส่เป้าหมายในพื้นที่ยึดครองของอิสราเอล
กลุ่มต่อต้านได้ปล่อยวิดีโอเมื่อวันอาทิตย์ซึ่งเผยขีปนาวุธใหม่ที่เรียกว่าบาดร์ 3 (Badr 3) ก่อนที่ภาพในวิดีโอจะตัดไปจุดยิงตกในเมืองอัชเคลอน (Ashkelon) ซึ่งตั้งอยู่ 50 กม. ทางใต้ของกรุงเทลอาวีฟ
ขีปนาวุธดังกล่าวมีขนาด 250 กิโลกรัม ซึ่งเป็นก้าวกระโดดที่สำคัญจากรุ่นก่อนซึ่งมีจรวดขนาดเล็กกว่าเพียง 40 กิโลกรัม
กองพลอัลกุดส์เตือนอิสราเอลว่า “สิ่งที่กำลังจะมาถึงต่อไปจะยิ่งใหญ่กว่านี้”