พล.ท.สกล ชื่นตระกูล แม่ทัพภาคที่ 4 และผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้าคนใหม่
วันนี้ (วันที่ 2 เมษายน 2556) พล.ท.สกล ชื่นตระกูล แม่ทัพภาคที่ 4 และผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้าคนใหม่ กล่าวในการรับมอบตำแหน่ง ณ ค่ายสิรินธร จ.ปัตตานี ว่า เป็นเกียรติอย่างสูงสุดที่ได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ ได้รับตำแหน่งนี้ ยืนยันว่าจะสานต่อนโยบายที่ทำมาของแม่ทัพเดิมและนำพาสันติสุขกลับคืนชายแดน ใต้ให้ได้
และในโอกาสเดียวกัน พล.ท.สกล ชื่นตระกูล แม่ทัพภาคที่ 4 คนใหม่ได้ให้สัมภาษณ์พิเศษกับ นสพ. พับลิกโพสต์ ถึงแนวนโยบายและทิศทางดับไฟใต้ นับต่อไปจากนี้
อายุราชการที่เหลือเพียง 1 ปีจะสานต่อนโยบายและโครงการที่ทำมาได้อย่างชัดเจนแค่ไหน?
ผมตั้งใจอุทิศตนในการทำงานด้วยการมุ่ง ขับเคลื่อนนโยบายในการแก้ปัญหาในพื้นที่ซึ่งได้ขับเคลื่อนกันมาให้ก้าวหน้า มากขึ้น ส่วนความต่อเนื่องในการปฎิบัติหน้าที่ตามคำสั่งของผู้บัญชาการทหารบกที่ท่าน แม่ทัพอุดมชัยทำมาตลอดระยะเวลา 2-3 ปีที่ผ่านมานั้น ผมจะสานต่อแนวทางให้มีความต่อเนื่องไปอย่างน้อยอีก 1 ปี เพื่อผลักดันนโยบายต่างๆ ที่เราได้เดินทางร่วมกันมา เราเดินทางมาไกลพอสมควรตามคำสั่งผู้บัญชาการทหารบกที่ท่านได้ดูแลพวกเรามา และใกล้สู่จุดหมายที่ตั้งไว้แล้ว
จากการทำงานและสัมผัสพื้นที่นี้มานาน มองเห็นแสงสว่างแห่งสันติภาพว่าจะคืนมาเมื่อไหร่?
ในส่วนของพลังมวลชนได้ตอบสนองตามนโยบาย ของรัฐ และแนวทางที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้วางไว้ คือ เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา เป็นการอยู่ร่วมกันและมีความสัมพันธ์ระหว่างกัน ซึ่งแนวทางต่างๆ ที่ทางแม่ทัพอุดมชัยทำมาร่วมกับพี่น้องประชาชนชาว 3 จังหวัดนั้นเห็นผลอย่างชัดเจน ว่าพวกเราอยู่ร่วมกันมาโดยตลอด ซึ่งในส่วนของแม่ทัพอุดมชัย จริงๆ แล้วท่านก็ยังไม่ได้ไปไหนท่านจะเดินทางดำเนินประสานกับโครงการและพี่น้องใน พื้นที่เหมือนเดิม และจะน้อมรับทุกอย่างมาทำอย่างเคร่งครัด ให้มีความสำเร็จสูงสุด ภารกิจเพื่อประชาชนและประเทศชาติ เราเดินทางมาไกล ใกล้สู่จุดหมายที่ตั้งไว้แล้ว ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับพี่น้องประชาชนและขึ้นอยู่กับเจตจำนงของบีอาร์เอ็นที่ แสดงตัวอยู่ในปัจจุบันนี้ เพราะถ้าเจตจำนงของบีอาร์เอ็นที่จะยุติความรุนแรงทุกอย่างก็จะจบ และความรุนแรงก็จะไม่เกิดขึ้น มีปัญหาอะไรที่เราต้องทำความเข้าใจกันเราก็ต้องมาพูดคุยกันเหมือนในที่ผ่าน มา ซึ่งกระบวนการตรงนี้เป็นความต้องการของพี่น้องในพื้นที่
กองทัพภาคที่ 4 เห็นด้วยกับกระบวนการพูดคุยเพื่อสันติภาพของรัฐบาลอย่างไรและจะมีตัวแทน ของกองทัพเข้าร่วมพูดคุยในครั้งต่อไปหรือไม่?
กระบวนการพูดคุยสันติภาพที่สมช.เป็น ตัวแทนทำอยู่และมีตัวแทนจากภาคส่วนต่างๆ เข้าร่วมกระบวนการนี้เป็นเรื่องที่ทางกองทัพเห็นด้วย การพูดคุยระหว่างบีอาร์เอ็นท์กับสมช.นั้น เป็นการพูดคุยในระดับรัฐบาล ซึ่งในระดับพื้นที่เราก็ให้ข้อมูลในระดับพื้นที่ และถ้าต้องการบุคคลใดที่จะเข้าร่วมก็ยินดีให้การสนับสนุน และในตอนนี้กระบวนการเพิ่งเริ่มไปเป็นครั้งที่ 2 ซึ่งในอนาคตถ้าทางผู้แทนของสมช.มีความต้องการประการใดเราก็พร้อมที่จะ สนับสนุนโดยที่ไม่ปฏิเสธ
(จากซ้ายไปขวา) พล.อ.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ และ พล.ท.สกล ชื่นตระกูล ในพิธีรับมอบตำแหน่ง แม่ทัพภาคที่ 4 และผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้าคนใหม่ ที่ ค่ายสิรินธร จ.ปัตตานี วันนี้
กระบวนการเพื่อสันติภาพที่กำลังดำเนินการอยู่สอดรับกับการนำคนกลับบ้านของกองทัพมากน้อยเพียงใด?
จริงๆ แล้วการพูดคุยนั้นตั้งแต่ท่านแม่ทัพอุดมชัยเข้ามารับตำแหน่งโดยท่านผู้ บัญชาการทหารบกได้สั่งการในเรื่องของให้หาหนทางที่จะให้ยุติความรุนแรงด้วย การพูดคุย ซึ่งเราก็ได้มีการพูดคุยในระดับบุคคล ระดับครอบครัวและพยายามที่พูดคุยมาโดยตลอด ก็จะเห็นผลของการพูดคุยว่ามีพี่น้องร่วมชาติของเราได้กลับเข้ามาเข้าร่วม สังคมกับเราอีกครั้งหนึ่งเป็นจำนวนมาก ซึ่งกระบวนการตรงนี้ชัดว่าไม่ได้ต้องการความรุนแรง และมีคนในกระบวนการหลายคนก็ไม่ได้ต้องการความรุนแรง เราจะทำยังไงให้หาหนทางที่จะหาเจตนารมณ์ของทั้ง 2 ฝ่ายให้เข้ามาอยู่ร่วมกันให้ได้
นโยบายของรัฐที่มีอยู่แต่ยังทำให้จำนวนเจ้าหน้าที่ยังเสียชีวิตเพิ่ม จะทำอย่างไร?
สิ่งที่เกิดขึ้นจริงๆ แล้วไม่ได้เกิดจากนโยบายของรัฐแต่เกิดจากนโยบายของบีอาร์เอ็นที่จะก่อเหตุ ก่อความรุนแรงต่อชีวิตและทรัพย์สินของรัฐ ซึ่งนโยบายของรัฐมีแต่มุ่งที่จะพัฒนา พบปะพูดคุยที่จะใช้สันติวิธี ซึ่งความรุนแรงไม่ได้เริ่มจากฝ่ายรัฐแต่เริ่มจากทางบีอาร์เอ็น ซึ่งถ้าหากบีอาร์เอ็นเขาจบ ยุติการใช้ความรุนแรงทุกอย่างก็คงจบ
การใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินที่มีอยู่มีแนวโน้มจะหยุดใช้เมื่อไหร่ ?
พรก.ฉุกเฉินมีเพราะมี เหตุฉุกเฉิน ถ้าเหตุรุนแรงจบก็ไม่ฉุกเฉิน ยกเลิกได้โดยทันที ซึ่งปัญหาคือยังมีความรุนแรงอยู่เรื่อย มีขบวนการที่มีเจตจำนงที่ใช้ความรุนแรงต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์เป็นข้อต่อรอง และจะใช้การก่อการร้ายในที่สาธารณะจึงเกิดผลกระทบต่อพี่น้องประชาชน ซึ่งถ้าหยุดก่อเหตุเมื่อไหร่เราก็ไม่ใช้
ฝากความมั่นใจต่อพี่น้องประชาชนในพื้นที่กับการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ?
นโยบายของรัฐบาลและผู้บัญชาการทหารบก ที่สั่งการลงมายังกองบัญชาการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ผ่านยุทธศาสตร์ 9 ข้อของรัฐบาล ได้สั่งการและกำกับดูแลอย่างใกล้ชิด เราหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะให้ทุกสิ่งทุกอย่างยุติโดยเร็วไม่ว่าจะด้วยประการ ใด สิ่งที่เราทำในขณะนี้คือสิ่งใดที่เราทำได้ เราจะทำไปก่อนล่วงหน้าโดยที่ไม่ต้องรอพูดคุยหรือต่อรองไปก่อน ขอเป็นพี่น้องกันตลอดไป มีสิ่งใดที่ไม่ถูกต้องขอให้บอกกล่าวกันและชี้แนะด้วยเพื่อภารกิจและการพัฒนา ที่เป็นประโยชน์แก่พี่น้องทุกคนในพื้นที่