สปุตนิก – สหรัฐฯ เชื่อว่าอิหร่านอยู่เบื้องหลังการโจมตีเรือบรรทุกน้ำมันสองลำในอ่าวโอมานเมื่อวันพฤหัสบดี (13 มิ.ย.) รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ไมค์ ปอมปีโอ กล่าวระหว่างการแถลงข่าว
“การประเมินของรัฐบาลสหรัฐอเมริการะบุว่า สาธารณรัฐอิสลามอิหร่านคือผู้ต้องรับผิดชอบต่อการโจมตีที่เกิดขึ้นในอ่าวโอมานในวันนี้” ปอมปีโอกล่าว
ปอมปีโอธิบายว่า การประเมินนี้วางอยู่บนพื้นฐานข้อมูลหน่วยสืบราชการลับ อาวุธที่ใช้ ระดับความเชี่ยวชาญที่จำเป็นในปฏิบัติการ การโจมตีของอิหร่านที่คล้ายกันเมื่อเร็วๆ นี้ และความจริงที่ว่าไม่มีกลุ่มนักรบตัวแทนใดที่ปฏิบัติการในพื้นที่นี้ที่จะมีทรัพยากรหรือศักยภาพในปฏิบัติการที่มีความซับซ้อนสูงเช่นนี้
ถ้อยแถลงดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากประธานาธิบดีอิหร่าน ฮัสซัน รูฮานี ระบุว่า อิหร่านให้ความสำคัญเป็นพิเศษในการรับรองความปลอดภัยในอ่าวเปอร์เซียและในภูมิภาคตะวันออกกลางทั้งหมด
สำนักข่าวอิร์นาของทางการอิหร่านรายงานก่อนหน้านี้ว่า ในวันเกิดเหตุทีมกู้ภัยอิหร่านได้ช่วยชีวิตลูกเรือไว้ 44 คนรวมถึงชาวรัสเซียหลังจากเรือบรรทุกน้ำมันสองลำถูกระเบิดในอ่าวโอมาน
เรือบรรทุกน้ำมัน Kokuka และ Front Altair ได้รับผลกระทบจากการโจมตีในอ่าวโอมานใกล้กับช่องแคบฮอร์มุซ เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน สาเหตุของเหตุการณ์ยังคลุมเครือ ตามรายงานบางฉบับเรือเหล่านั้นถูกโจมตีด้วยตอร์ปิโดซึ่งทำให้เกิดการระเบิดและไฟไหม้บนเรืออย่างน้อยหนึ่งลำ อย่างไรก็ตามไม่มีข้อมูลอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับสาเหตุของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ลูกเรือทั้งหมดของเรือบรรทุกน้ำมันถูกอพยพไปยังอิหร่าน
อิหร่านโต้ สหรัฐจ้องทำลายความสัมพันธ์ทางการทูต
ในวันศุกร์ 14 มิ.ย. รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่านโมฮัมหมัด จาวาด ซารีฟ ก็ออกมาสวนโดยทันทีว่า สหรัฐฯ กล่าวหาอิหร่านเรื่องโจมตีเรือในอ่าวโอมานโดยไม่แสดงหลักฐานใดๆ เพื่อยืนยันคำอ้างของตน
“การที่สหรัฐฯ รีบกระโดดออกมากล่าวหาอิหร่านทันที – โดยปราศจากข้อเท็จจริงที่เป็นรูปธรรมหรือหลักฐานแวดล้อม – – ทำให้ชัดเจนอย่างมากว่า #บีทีม กำลังจะย้ายไปที่ #แผนสอง : การก่อวินาศกรรมการทูต – หมายรวมถึง [นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ชินโซ อาเบะ] – และปกปิด #การก่อการร้ายทางเศรษฐกิจต่ออิหร่าน” ซารีฟเขียนลงในทวิตเตอร์
“ผมเตือนสถานการณ์นี้เมื่อสองสามเดือนที่แล้ว ไม่ใช่เพราะผมมีญาณทิพย์ แต่เพราะผมจำได้ว่า #บีทีม มาจากไหน” ซารีฟกล่าวเสริม
I warned of exactly this scenario a few months ago, not because I'm clairvoyant, but because I recognize where the #B_Team is coming from.
— Javad Zarif (@JZarif) June 14, 2019
ทั้งนี้ “บีทีม” (B-team) เป็นวาทกรรมที่ซารีฟสร้างขึ้น หมายถึงกลุ่มคนที่มีความคิดเป็นปฏิปักษ์สุดโต่งต่ออิหร่านและรวมหัวกัน ประกอบด้วย นายจอห์น โบลตัน ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐ, นายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล, เจ้าชายโมฮัมหมัด บินซัลมาน มกุฎราชกุมารแห่งซาอุฯ และ เจ้าชายโมฮัมหมัด บินซาเยด อัลนะห์ยาน มกุฎราชกุมารอาบูดาบี