ผู้ประท้วงกว่า 200 คนบุกเข้าไปในลานสถานทูตบาห์เรนในกรุงแบกแดด และลดธงชาติลง เพื่อประท้วงการประชุมเรื่อง “สันติภาพของอิสราเอล-ปาเลสไตน์” ในบาห์เรนที่นำโดยสหรัฐฯ
ตำรวจอิรักได้เข้าโอบล้อมเพื่อสลายฝูงชนโดยไม่มีรายงานการบาดเจ็บ แหล่งข่าวบอกกับสำนักข่าวรอยเตอร์
“ เราใช้ลำโพงติดรถยนต์ของเราเพื่อกระตุ้นเตือนให้ผู้ประท้วงออกจากพื้นที่” เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำการอยู่ใกล้กับสถานทูตกล่าว “หลังจากที่พวกเขาปฏิเสธ ตำรวจต้องยิงปืนขึ้นฟ้า”
ตามรายงานของรอยเตอร์ ผู้ประท้วงคนหนึ่งซึ่งระบุว่า ตัวเองเป็นสมาชิกของกลุ่มอิสลามิกต่อต้าน (Islamic Resistance Groups) ซึ่งเป็นคำที่มักใช้โดยกลุ่มติดอาวุธชีอะห์ที่อิหร่านหนุนหลังกล่าวว่า พวกเขาต้องการส่งข้อความที่แข็งแกร่ง
“เราลดธงบาห์เรนลงเพื่อส่งข้อความที่ชัดเจนถึงทุกคนที่เข้าร่วมในการประชุมที่บาห์เรนว่า เราปฏิเสธอย่างเด็ดขาดต่อการปรับความสัมพันธ์เป็นปกติกับไซออนนิสต์ผู้ยึดครอง และเราจะไม่มีทางละทิ้งการสนับสนุนชาวปาเลสไตน์” อะบูมุรตาฎอ อัลมูซาวี ผู้ประท้วงกล่าว “เราพร้อมที่จะต่อสู้เพื่อสิ่งนี้”
หลังเหตุการณ์ประท้วงนี้ บาห์เรนเรียกตัวเอกอัครราชทูตประจำอิรักของตนกลับประเทศ เพื่อแสดงการประท้วง
“กระทรวงการต่างประเทศแห่งราชอาณาจักรบาห์เรนได้ประณามการโจมตีสถานทูตราชอาณาจักรบาห์เรนต่อสาธารณรัฐอิรักโดยผู้ประท้วง (ซึ่ง) นำไปสู่การก่อวินาศกรรมในอาคารสถานทูต” แถลงการณ์บนเว็บไซต์ของกระทรวงกล่าวตามที่รอยเตอร์รายงาน
ด้านรัฐบาลอิรักได้ออกมาประณามผู้ประท้วง และแสดง “ความเสียใจอย่างสุดซึ้ง” ต่อการละเมิดความปลอดภัยที่สถานทูตบาห์เรน
“ รัฐบาลอิรักยืนยัน ไม่ยอมรับการกระทำใดๆ ที่เป็นภัยคุกคามต่อภารกิจทางการทูต ความปลอดภัยและความมั่นคงของบุคลากร” แบกแดดกล่าวในแถลงการณ์
การประชุมสองวันในกรุงมานามา บาห์เรน มีวัตถุประสงค์เพื่อระดมทุนสนับสนุนแผนการลงทุนมูลค่า 50 พันล้านดอลลาร์ในดินแดนปาเลสไตน์ ซึ่งเป็นส่วนแรกของแผนทางการเมืองของทำเนียบขาวเพื่อยุติความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์
