“อิหร่าน” เดินหน้าเสริมสมรรถนะยูเรเนียมเกิน 3.67% แล้ว หลังยุโรปไร้น้ำยารักษาข้อตกลงนิวเคลียร์

การแถลงข่าวร่วมกันโดยรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ “อับบาส อารักชี”, โฆษกรัฐบาลอิหร่าน อาลี ราบีดี และเบห์รูซ คามาลวันดี โฆษกองค์การพลังงานปรมาณูแห่งอิหร่าน (AEOI) ที่สำนักงานประธานาธิบดีในกรุงเตหะราน วันอาทิตย์ 7 ก.ค.62 / ภาพ Tasnimnews

เพรสทีวี/ตัสนีม – อิหร่านประกาศลดภาระผูกพันภายใต้ข้อตกลงนิวเคลียร์ ปี 2015 และจะเริ่มกระบวนการเสริมสร้างยูเรเนียมให้มีความบริสุทธิ์สูงกว่า 3.67% ซึ่งเป็นเพดานกำหนดตามข้อตกลง หลังผู้ร่วมลงนามชาติอื่นล้มเหลวในการรักษาผลประโยชน์ที่กระทบรุนแรงจากการถอนตัวฝ่ายเดียวโดยสหรัฐ

วันนี้ (7 ก.ค) อิหร่านได้ประกาศอย่างเป็นทางการที่จะลดภาระผูกพันภายใต้แผนปฏิบัติการเบ็ดเสร็จร่วม (Joint Comprehensive Plan of Action – JCPOA) ในระหว่างการแถลงข่าวร่วมกันโดยรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ “อับบาส อารักชี”, โฆษกรัฐบาลอิหร่าน อาลี ราบีดี และเบห์รูซ คามาลวันดี โฆษกองค์การพลังงานปรมาณูแห่งอิหร่าน (AEOI) ที่สำนักงานประธานาธิบดีในกรุงเตหะราน วันอาทิตย์ 7 ก.ค.

โฆษกองค์การพลังงานปรมาณูอิหร่านกล่าวว่า อิหร่านจะเพิ่มการเสริมสมรรถนะยูเรเนียมจากปัจจุบัน 3.67% เป็น 5% ในตอนนี้ อันเป็นระดับที่ตอบสนองความต้องการของโรงไฟฟ้า

นอกจากนี้เขายังกล่าวว่า เตหะรานยังไม่ได้ตัดสินใจต่อระดับของการเสริมสมรรถนะสำหรับเครื่องปฏิกรณ์วิจัยของเตหะราน โดยระบุว่า อิหร่านอาจเริ่มการเสริมสมรรถนะยูเรเนียมเกรดสูงขึ้นไปอีกเพื่อผลิตเชื้อเพลิงสำหรับเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ของเตหะรานในอนาคต

อิหร่านได้กล่าวก่อนหน้านี้ว่า ต้องการการเสริมสมรรถนะยูเรเนียมในระดับ 5% สำหรับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ Bushehr (NPP) และ 20% สำหรับเครื่องปฏิกรณ์วิจัยของเตหะราน

การตัดสินใจครั้งใหม่ของเตหะรานในการเพิ่มระดับของการเสริมสมรรถนะยูเรเนียมสู่ระดับความบริสุทธิ์ที่สูงขึ้นนั้นเกิดขึ้นหลังจากฝ่ายผู้ลงนามใน JCPOA ไม่อาจหาหนทางในการรักษาผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจของอิหร่านภายใต้ข้อตกลง ตามที่อิหร่านได้กำหนดเวลาไว้ให้ 60 วัน

ด้านโฆษกรัฐบาลอิหร่านกล่าวว่า ยุโรปยังไม่สามารถตอบสนองความต้องการของอิหร่านได้ รวมถึงช่องทางการชำระเงินโดยตรงที่ไม่ใช่ดอลล่าร์กับอิหร่านที่รู้จักกันในชื่อ INSTEX

รัฐมนตรีช่วยว่าการต่างประเทศอิหร่านกล่าวว่า เตหะรานจะลดภาระผูกพันต่อข้อตกลงลงไปอีกในทุก 60 วันข้างหน้า หากยุโรปล้มเหลวในการตอบสนองความต้องการของอิหร่าน

อิหร่านและกลุ่ม 5 + 1 (รัสเซีย, จีน, สหรัฐ, อังกฤษ, ฝรั่งเศส, และเยอรมนี) ได้ข้อสรุปเกี่ยวกับข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน (JCPOA) และลงนามไปเมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2015

ข้อตกลงดังกล่าวมีผลบังคับใช้ในเดือนมกราคม 2016 และควรยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรทางนิวเคลียร์ที่เกี่ยวข้องกับอิหร่านทั้งหมดในคราวเดียว แต่การดำเนินการดังกล่าวถูกขัดขวางโดยนโยบายของสหรัฐและการถอนตัวจากข้อตกลงในที่สุด

ทรัมป์นำพาสหรัฐถอนตัวฝ่ายเดียวออกจากข้อตกลง ในวันที่ 8 เดือนพฤษภาคม 2018 และได้นำมาตรการคว่ำบาตรทั้งเก่าและใหม่มาใช้กับอิหร่าน ทั้งพยายามบีบให้ชาติผู้ลงนามที่เหลือซึ่งส่วนใหญ่คือยุโรป ดำเนินการตามมาตรการของสหรัฐ

อิหร่านซึ่งปฏิบัติตามข้อผูกพันทั้งหมดอย่างเต็มที่แม้จะมีการถอนตัวออกไปของสหรัฐและยุโรปไร้ศักยภาพในการรักษาข้อตกลง จากนั้นเตหะรานจึงมีการกำหนดเวลาให้ชาติที่เหลือเพิ่มความพยายามในการรักษาผลประโยชน์ของอิหร่านให้ได้ หรือไม่ก็ดูเตหะรานค่อยๆ ลดขอบเขตการดำเนินการตามข้อตกลง JCPOA

เมื่อสัปดาห์ที่แล้วอิหร่านก็เพิ่งเพิ่มปริมาณสำรองยูเรเนียมเสริมสมรรถนะเกิน 300 กิโลกรัม ซึ่งเป็นเพดานตามข้อตกลง

อิหร่านบอกว่า การลดข้อผูกพันไม่ใช่การละเมิด JCPOA แต่ขึ้นอยู่กับข้อ 26 และ 36 ของข้อตกลงเอง