ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวเมื่อวันพฤหัสบดี (18 ก.ค.) ว่า เรือของกองทัพเรือสหรัฐฯ ได้ทำลายโดรนของอิหร่าน เพื่อ “ป้องกันตัว” ทำให้ความตึงเครียดในภูมิภาคอ่าวที่อุดมไปด้วยน้ำมันทวีความรุนแรงขึ้น ซีเอ็นบีซีรายงาน
ยูเอสเอส บ็อกเซอร์ (USS Boxer) ซึ่งเป็นเรือจู่โจมสะเทินน้ำสะเทินบกได้ยิงทำลายโดรนในช่องแคบฮอร์มุซ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (18 ก.ค.) ทรัมป์กล่าว
ยูเอสเอส บ็อกเซอร์ เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มเรือของกองทัพเรือสหรัฐฯ ที่อยู่ในช่องแคบนี้ ประจำการระหว่างอ่าวเปอร์เซียและอ่าวโอมาน ส่วนหนึ่งของการเพิ่มขึ้นของกองทัพสหรัฐในภูมิภาคนี้
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นสี่สัปดาห์คล้อยหลังอิหร่านยิงโดรนสหรัฐฯ และหลายชั่วโมงหลังจากหน่วยพิทักษ์การปฏิวัติอิหร่าน (IRGC) ยึดเรือบรรทุกน้ำมันต่างชาติซึ่งถูกกล่าวหาว่าลักลอบขนน้ำมันเถื่อน
ทรัมป์กล่าวจากทำเนียบขาวว่า “ยูเอสเอส บ็อกเซอร์ยิงโดรนของอิหร่านซึ่งเข้ามาใกล้มากระยะทางประมาณ 1,000 หลา เพิกเฉยคำเตือนหลายครั้งที่ส่งออกไป และกำลังคุกคามความปลอดภัยของเรือและลูกเรือ”
“โดรนถูกทำลายทันที” ทรัมป์กล่าว
เขากล่าวว่า สหรัฐอเมริกา “ขอสงวนสิทธิ์ในการปกป้องบุคลากรของเรา ทรัพยากรและผลประโยชน์ของเรา และขอเรียกร้องให้ทุกประเทศประณามความพยายามของอิหร่านที่จะทำลายเสรีภาพในการเดินเรือและการค้าของโลก”
เพนตากอนแถลงในแถลงการณ์หลังจากนั้นว่า “เวลาประมาณ 10.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น USS Boxer เรือสะเทินน้ำสะเทินบกอยู่ในน่านน้ำระหว่างประเทศ เพื่อดูแลการขนส่งขาเข้าช่องแคบฮอร์มุซตามแผนที่วางไว้”
“เครื่องบินไร้คนขับ (UAS) แบบปีกคงที่ได้เข้าหาเรือยูเอสเอส บ็อกเซอร์ และเข้าใกล้ในระยะที่อันตราย เรือได้ดำเนินการป้องกัน UAS เพื่อความปลอดภัยของเรือและลูกเรือ” เพนตากอนกล่าว