อัลจาซีร่า – ซาอุดิอาระเบียได้ระงับมิให้ประชาชนจากสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโกเดินทางเข้ามาแสวงบุญในช่วงพิธีฮัจย์ปีนี้ เหตุหวั่นว่าอีโบล่าจะแพร่กระจาย
การตัดสินใจนี้ถูกประกาศเมื่อวันพุธที่ผ่านมา (25 ก.ค.) โดยกระทรวงการต่างประเทศซาอุดิอาระเบีย ซึ่งได้อ้างถึงการเคลื่อนไหวขององค์การอนามัยโลกเมื่อสัปดาห์ที่แล้วที่ประกาศให้การระบาดของโรคอีโบลาในภาคเหนือของ Kivu และ Ituri ป็นภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขระหว่างประเทศ
กระทรวงการต่างประเทศซาอุดิอาระเบียกล่าวว่า “การอนุญาตให้ผู้ขอวีซ่าเดินทางเข้าประเทศสำหรับผู้ที่เดินทางจากคองโคได้ถูกระงับ เพื่อรักษาความเป็นอยู่ที่ปลอดภัยของผู้แสวงบุญ
ยังไม่ชัดเจนว่ามีคนจำนวนเท่าใดที่ได้รับผลกระทบจากประกาศนี้
ประมาณสามเปอร์เซ็นต์ของประชากรคองโกเป็นมุสลิมตามการสำรวจของกลุ่มวิจัยคองโกในนิวยอร์ก (New York-based Congo Research Group) ในขณะที่ผู้คนจากแอฟริกาใต้สะฮารา (sub-Saharan Africa) คิดเป็น 10% ของผู้แสวงบุญกว่าสองล้านคนต่อปีที่เดินทางไปยังนครเมกกะห์อันศักดิ์สิทธิ์
การเคลื่อนไหวนี้ของริยาดเกิดขึ้น ถึงแม้ว่าองค์การอนามัยโลกจะกล่าวในเวลาที่ประกาศภาวะฉุกเฉินระหว่างประเทศว่า ไม่มีประเทศใดควรปิดพรมแดนหรือจำกัดการเดินทางหรือการค้าเนื่องจากอีโบล่า และเรียกร้องไม่ให้ประเทศในแอฟริกาและทั่วโลก “ตื่นตระหนก” ในการตอบสนองต่อการประกาศนี้
ตามรายงานของกระทรวงสาธารณสุขคองโก การระบาดของโรคดังกล่าวได้คร่าชีวิตผู้คนไปกว่า 1,700 คน (ซึ่งมากกว่าสองในสามของผู้ป่วยโรคนี้) ตั้งแต่เกิดการระบาดเมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว อันเป็นการระบาดครั้งที่เลวร้ายที่สุดเป็นอันดับที่สองตามสถิติ
ซาอุดิอาระเบียเคยปิดพรมแดนมาแล้วมิให้บางประเทศเดินทางเข้ามาท่ามกลางความกลัวอีโบลาในช่วงที่มีการปะทุของไวรัสครั้งรุนแรงที่สุดในโลก ผ่านแอฟริกาตะวันตกในช่วงปี 2014-2016 ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนไปแล้วกว่า 11,300 คน