มหาวิทยาลัยในบังคลาเทศได้สั่งพักการนักศึกษาโรฮิงยา เจ้าหน้าที่กล่าวเมื่อวันอาทิตย์ (8 ก.ย. ) ตามรายงานของสเตรทไทมส์
ชนกลุ่มน้อยชาวมุสลิมราว 740,000 คนหลบหนีไปทางตะวันออกเฉียงใต้ของบังคลาเทศหลังจากการปราบปรามทางทหารในรัฐยะไข่ของพม่าในเดือนสิงหาคม 2560 จากเดิมที่มีชาวโรฮิงยา 200,000 คนอยู่แล้ว
การศึกษาอย่างเป็นทางการในบังคลาเทศเป็นสิ่งต้องห้ามสำหรับผู้ลี้ภัย
มหาวิทยาลัยนานาชาติคอกซ์บาซาร์ กล่าวว่า ได้พักการเรียนนางสาวราฮิมะห์ อัคเตอร์ กูชี (Rahima Akter Khushi) วัย 20 ปี และจะสอบสวนเรื่องของเธอ หลังจากสื่อท้องถิ่นกล่าวว่าเธอปกปิดตัวตนว่าเป็นชาวโรฮิงญาเพื่อลงทะเบียนเรียน
อะบุลกอซิม ผู้อำนวยการมหาวิทยาลัยนานาชาติคอกซ์บาซาร์ กล่าวว่า “ชาวโรฮิงยาไม่สามารถเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยของเราได้เพราะพวกเขาเป็นผู้ลี้ภัย”
“ชาวต่างชาติสามารถเรียนที่นี่ได้ แต่ต้องทำตามขั้นตอน”
เขากล่าวว่า หญิงสาวคนนี้ได้จัดเตรียมเอกสารที่แสดงว่าเธอเรียนจบมัธยมปลายในเมืองท่าจิตตะกองของบังคลาเทศ
ด้านนางสาวราฮิมะห์ ที่กำลังศึกษากฎหมายบอกกับสำนักข่าวเอเอฟพี ว่าการตัดสินใจของมหาวิทยาลัยทำให้เธอ “ใจสลาย”
“เด็กผู้หญิงคนอื่นอาจฆ่าตัวตายในตอนนี้ แต่…ฉันพยายามอย่างดีที่สุดที่จะเผชิญกับสถานการณ์” เธอกล่าว
เว็บไซต์ข่าวโรฮิงยาโพสต์ กล่าวว่านางสาวราฮิมะห์ตกเป็นเป้าโจมตีหลังจากการสัมภาษณ์ในปี 2018 กับสำนักข่าวเอพี ว่าพ่อแม่เป็นชาวโรฮิงยาเดินทางมาบังกลาเทศจากรัฐยะไข่ในปี 1990 ส่วนตนเกิดและเติบโตที่ค่ายผู้ลี้ภัยในเมืองค็อกซ์บาซาร์
“ฉันอยากไปต่อ แต่ฉันไม่รู้ว่าฉันจะทำอย่างไร” นางสาวราฮิมะห์ บอกกับเอเอฟพี
ด้าน มูยิบุลเลาะห์ ผู้นำชาวโรฮิงยาที่อยู่ในเมืองบริสเบน ออสเตรเลีย กล่าวว่า การพักการเรียนนางสาวราฮิมะห์ จะไม่ได้อะไรเลยนอกจากการทำลายคนที่มีศักยภาพในชุมชนนี้ ซึ่งมีโอกาสจำกัดในการศึกษาที่รัฐยะไข่