สปุตนิก – กลุ่มพันธมิตรทางทหารภายใต้การนำของซาอุดีอาระเบียในการสู้รบกับฮูซีของเยเมน ได้ประกาศว่า ‘การค้นพบเบื้องต้น’ ได้แสดงให้เห็นว่าการโจมตีโรงงานนำ้มัน “ซาอุดี อารามโก” เมื่อวันเสาร์ (14 ก.ย.) ที่ผ่านมาใช้อาวุธที่ผลิตในอิหร่าน ไม่ได้มีถิ่นกำเนิดในเยเมน
ในการแถลงข่าวที่กรุงริยาดในวันจันทร์ (16 ก.ย.) โฆษกของพันธมิตรทางทหารฯ พ.อ.ตุรกี อัล-มัลกี กล่าวว่า การสอบสวนยังคงดำเนินต่อไป และผู้สอบสวนกำลังมองหา “จุด” ที่ใช้ยิงขีปนาวุธว่ามาจากไหน
โฆษกกล่าวว่า โดรนดังกล่าวไม่ได้เปิดตัวจากเยเมนตามที่กลุ่มฮูซีกล่าวอ้าง
อัล – มาลิกีสัญญาว่า จะนำเสนอผลต่อสื่อมวลชนเมื่อการสอบสวนเสร็จสิ้น
ฮูซีเป็นกองทหารติดอาวุธเยเมนที่ต่อต้านซาอุดิอาระเบียและพันธมิตรซึ่งส่วนใหญ่เป็นรัฐอ่าวที่ได้เข้าร่วมสงครามตั้งแต่ปี 2015
ฮูซีอ้างความรับผิดชอบในการโจมตีเมื่อวันเสาร์โดยกล่าวว่า พวกเขาใช้โดรน 10 ลำ เพื่อโจมตีโรงน้ำมันของซาอุฯ และเตือนว่า พวกเขาจะทำการจู่โจมต่อไปจนกว่าริยาดจะยุติ “การรุกรานและการปิดล้อมเยเมน”
หลังสหรัฐฯอ้างว่าอิหร่านเป็นผู้รับผิดชอบในการโจมตีครั้งนี้ ในวันจันทร์นี้ โมฮัมเหม็ด อัลบูคัยตี สมาชิกสภาการเมืองสูงสุดของฮูซี ได้กล่าวกับสื่ออิหร่านว่า การพยายามตำหนิการโจมตีของฮูซีต่อประเทศอื่นนั้นเป็นการกระทำที่มาจาก “ความขี้ขลาด”
การโจมตีอย่างน่าประหลาดใจเมื่อวันเสาร์ที่โรงงานน้ำมันหลักสองแห่งของซาอุดิ อารามโก รวมถึงโรงผลิตน้ำมันดิบที่ใหญ่ที่สุดในโลก ทำให้ราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้นอย่างมากในการซื้อขายในวันจันทร์นี้ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับอุปทาน หลังจากมีการประมาณการว่าครึ่งหนึ่งของการส่งออกทั้งหมดของริยาดได้รับผลกระทบจากการโจมตีนี้
เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ซาอุดิอาระเบียนิรนามบอกกับสื่อสหรัฐว่า ริยาดหวังว่าจะกู้หนึ่งในสามของกำลังการผลิตที่สูญเสียไปได้ภายในวันจันทร์ แต่เสริมว่าสถานการณ์ของโรงกลั่นนั้นเลวร้ายยิ่งกว่าการประเมินเบื้องต้น
