สปุตนิก – ฮัสซัน รูฮานี ประธานาธิบดีอิหร่านกล่าวในวันพุธ (18 ก.ย.) ว่า การโจมตีโรงกลั่นน้ำมันของซาอุดิอาระเบียโดยฮูซี เป็นการเตือนให้ราชอาณาจักรยุติสงครามในเยเมน
“ประเทศเยเมนไม่ได้เป็นแหล่งกำเนิดของความขัดแย้ง แต่เป็นซาอุดิอาระเบีย, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, อเมริกัน, บางประเทศในยุโรป และระบอบไซออนิสต์ที่เริ่มทำสงครามและทำลายเยเมน. เยเมนไม่ได้กำหนดเป้าหมาย (โจมตี) ไปยังโรงเรียน โรงพยาบาล หรือตลาด แต่พวกเขาโจมตีศูนย์อุตสาหกรรมเพื่อเตือนศัตรูของพวกเขา” รูฮานีกล่าวในการประชุมคณะรัฐมนตรี ตามที่เว็บไซต์ของเขาระบุ
ประธานาธิบดีอิหร่านย้ำว่า “การกล่าวหาอิหร่านว่าอยู่เบื้องหลังการโจมตีอารามโกนั้นไร้เหตุผล” เขากล่าวว่า “ข้อกล่าวหานี้” เกิดขึ้นจาก “บริบทแรงกดดัน” ต่อเตหะราน เนื่องจากความพยายามของวอชิงตันในการเริ่มเจรจาเกี่ยวกับข้อตกลงนิวเคลียร์ใหม่
“ หากวอชิงตันต้องการเจรจากับอิหร่านพวกเขาจะต้องหยุดการกดดัน มิฉะนั้นมันไม่มีทางเป็นไปไม่ได้” เขากล่าวเสริม
ผู้นำอิหร่านเรียกร้องประเทศต่างๆ ที่เขาขนานนามว่าเป็น “ศัตรูของภูมิภาค” ให้ตระหนักถึง “พลังของชาติต่างๆ” โดยเน้นย้ำว่า อิรัก อัฟกานิสถาน ซีเรีย และประเทศอื่นๆ ยังคงอยู่ที่นั่นแม้มีความพยายามมานานหลายปีที่จะทำลายประเทศเหล่่านี้
“แทนที่จะยอมรับว่าฮิซบุลเลาะห์ของเลบานอนมีศักยภาพและอำนาจสูงทั้งในด้านความรู้ทางวิทยาศาสตร์และการทหาร และความกล้าหาญในสนามรบ หรือว่าส่วนหนึ่งของคนหนุ่มสาวที่กล้าหาญของอิรักที่ได้ปลดปล่อยเมืองต่าง ๆ ทั่วประเทศจากเงื้อมมือของผู้ก่อการร้าย และแทนทีจะยอมรับการการเติบโตและความยิ่งใหญ่ของประเทศต่าง ๆ เช่นซีเรียและเยเมน พวกเขา [‘ศัตรูในภูมิภาค’] กลับพยายามที่จะกล่าวโทษผู้อื่น ” รูฮานีกล่าว
ด้านรัฐมนตรีกลาโหมของอิหร่านได้ปฏิเสธเรื่องเตหะรานมีบทบาทในการโจมตีโรงงานน้ำมันซาอุฯ โดยระบุว่า “เห็นได้ชัดว่ามันเป็นความขัดแย้งทางทหารระหว่างสองประเทศ”ถ้อยแถลงนี้ของรัฐมนตรีกลาโหมของอิหร่านเกิดขึ้นคล้อยหลังกระทรวงกลาโหมของซาอุดิอาระเบียกล่าวว่ามีหลักฐานว่าอิหร่านมีส่วนร่วมในการโจมตีโรงงานผลิตน้ำมันของซาอุดิอาระเบีย