สปุตนิก – การชุมนุมที่เริ่มขึ้นในประเทศอิรักเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาทำให้เกิดการปะทะกันอย่างรุนแรงระหว่างผู้ประท้วงและตำรวจ โดยรายงานระบุว่ามีผู้เสียชีวิตแล้วประมาณ 250 คน
ล่าสุดสำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 13 คนและบาดเจ็บกว่า 850 คนในชั่วข้ามคืน หลังจากตำรวจเปิดฉากยิงใส่ผู้ประท้วงในเมืองการ์บาลา
เมืองซึ่งเป็นที่ตั้งของสุสานอิหม่ามฮุเซนและอับบาสซึ่งเป็นหลานศาสดามูฮัมหมัด สถานศักดิ์สิทธิ์ของชาวมุสลิมชีอะห์นั้นได้มีการปะทะกันอย่างรุนแรงระหว่างเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายกับฝูงชนที่โกรธแค้นในวันจันทร์ (28 ต.ค.)
สถานการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่ผู้คนท้าทายการเคอร์ฟิวที่ถูกกำหนดโดยกองทัพ และจัดการประชุมที่ใจกลางกรุงแบกแดด เมืองหลวงอิรักในช่วงหลายวันที่ผ่านมา ทางการได้ใช้แก๊สน้ำตาเพื่อหยุดยั้งผู้คนจากการโจมตีพื้นที่สีเขียว (กรีนโซน) พื้นที่ที่มีหน่วยงานราชการ สถานทูต และบริษัทต่างประเทศ
ก่อนหน้านี้ แบกแดดได้ปิดกั้นเครือข่ายสื่อสังคมและแอพส่งข้อความรวมถึงเฟซบุก, ทวิตเตอร์, วอทซ์แอพ และ อินสตาแกรม เพื่อหยุดยั้งผู้คนไม่ให้จัดกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงในเมืองใหญ่ ผู้ประท้วงเรียกร้องให้รัฐบาลลาออกเนื่องจากปัญหาการว่างงาน บริการสาธารณะที่ย่ำแย่ และการทุจริตคอร์รัปชัน