การชุมนุมประท้วงนโยบายนำพระพุทธรูปเข้าไปประดิษฐานในโรงเรียนควนโดนอำเภอควนโดน จังหวัดสตูล ของชาวบ้านที่นับถือศาสนาอิสลามเข้มข้นและขยายวงกว้างขึ้นเป็นลำดับ โดยมี นายจิรายุส เนาวเกตุ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดสตูล เป็นหัวหอกคนสำคัญ การแสดงตนเป็นผู้นำประท้วงอย่างออกหน้าออกตาของนายจิรายุสฯ เท่ากับเป็นการสวนทางนโยบายของพรรคประชาธิปัตย์ที่ตนเองสังกัดอยู่ ความเขม็งเกลียวกับผู้นำพรรคและแกนนำคนสำคัญของพรรคไม่อาจหลีกเลี่ยงไปได้อีกแล้ว นายจิรายุสเองในขณะนั้นเปรียบเสมือนแพะไม่กลัวน้ำร้อนเป็นไงเป็นกัน แม้ต้องถูกขับออกจากพรรคก็ไม่หวาดหวั่นและในใจลึกๆอยู่นั้นพร้อมที่จะย้ายนิวาสสถานไปอยู่พรรคการเมืองอื่นที่มีในดวงใจอยู่แล้ว
ในขณะเดียวกันนี้บรรดาสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมุสลิมในจังหวัดชายแดนภาคใต้ต่างก็ได้รับบัตรสนเท่ห์ส่งทางไปรษณีย์จากกลุ่มบุคคลที่ใช้ชื่อว่า “กลุ่มพิทักษ์มุสลิม” ลงวันที่ 1 ธันวาคม 2528 โจมตีเรื่องการจัดตั้งพระพุทธรูปประจำสถานศึกษาในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ดังมีข้อความต่อไปนี้
ส.ส. มุสลิมกำลังทำอะไร ?
ขอความสันติสุขแด่พี่น้องมุสลิม
พี่น้องมุสลิมที่รัก……
ตามที่ได้มีข่าวทางหน้าหนังสือพิมพ์เมื่อไม่กี่วันมานี้ มีข่าวหนึ่งนับว่าเป็นข่าวที่น่าสนใจมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสี่จังหวัดชายแดนภาคใต้ คือ กรณีพี่น้องมุสลิมชาวจังหวัดสตูลได้รวมตัวกันประท้วง คัดค้านการนำพระพุทธรูปไปจัดตั้งในโรงเรียนบ้านควนโดน อำเภอควนโดน จังหวัดสตูล ซึ่งเป็นโรงเรียนที่มีนักเรียนมุสลิมอยู่ประมาณ 95%
อนึ่ง การนำพระพุทธรูปไปจัดตั้งตามโรงเรียนต่างๆ ทั่วประเทศนั้น เป็นนโยบายหนึ่งของกระทรวงศึกษาธิการ แต่เราทุกคนทราบกันดีว่า นโยบายดังกล่าวมันขัดกับหลักการของ “อิสลาม” มันไม่สามารถที่จะปฏิบัติร่วมกันได้ มันก็เป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้วละครับ ที่พี่น้องมุสลิมชาวจังหวัดสตูลได้ทำการเคลื่อนไหวคัดค้านการนำพระพุทธรูปไปจัดตั้งในโรงเรียนดังกล่าว เราขอสรรเสริญพี่น้องมุสลิมชาวจังหวัดสตูลที่มีความศรัทธามั่นคงต่อองค์อัลลอฮ (ซ.บ.) ได้รวมพลังกันต่อสู้ คัดค้าน ในสิ่งที่จะนำมาซึ่งความเสื่อมเสียต่อหลักการอิสลาม อันเป็นการแสดงถึงความรับผิดชอบต่อหน้าที่ของพี่น้องมุสลิมชาวจังหวัดสตูล และมันเป็นหน้าที่ของพี่น้องมุสลิมทั้งประเทศทั่วโลก ที่จะต้องร่วมกันคัดค้านนโยบายการนำพระพุทธรูปไปจัดตั้งในโรงเรียนที่มีนักเรียนส่วนใหญ่เป็นมุสลิม และเราขอสรรเสริญ คุณจิรายุส เนาวเกตุ ที่ท่านได้ปฏิบัติตามคำสัญญาต่อพี่น้องมุสลิมในเขตความรับผิดชอบของท่าน ในฐานะที่ท่านเป็นตัวแทนของชาวจังหวัดสตูล และยังเป็นการปฏิบัติตามหน้าที่ของท่านที่มีต่อเอกองค์อัลลอฮ(ซ.บ.)ด้วย
พี่น้องมุสลิมที่รัก…….
การนำพระพุทธรูปไปจัดตั้งในโรงเรียนควนโดนนั้น เป็นเพียงก้าวแรกของกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อดำเนินตามนโยบายที่กำหนดไว้ ซึ่งเป็นนโยบายที่กระทรวงศึกษาธิการมีต่อพี่น้องมุสลิมในสี่จังหวัดชายแดนภาคใต้โดยตรง ก้าวต่อไปก็จะค่อยๆแพร่ขยายไปจัดตั้งในโรงเรียนอื่นๆในจังหวัดสตูล และต่อไปจะขยายไปยังจังหวัดต่างๆทางภาคใต้ คือ ปัตตานี ยะลา และ นราธิวาส
เมื่อนโยบายเขาวางดังนี้แล้ว พี่น้องมุสลิมที่รัก…..เราจะยังนิ่งเฉยดูดายอีกหรือ……แล้วไหนละ……..ที่เรากล่าวว่าเราเป็น “ผู้ศรัทธา” แหละไหนเล่าที่เราบอกว่า “มุสลิมคือพี่น้องกัน เป็นเสมือนเรือนร่างเดียวกัน ส่วนใดได้รับบาดเจ็บ ส่วนอื่นๆ ก็จะเจ็บไปด้วย” โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ส.ส. (มุสลิม) ที่รักทั้งหลายไหนละหน้าที่และความไว้วางใจที่ประชาชนมอบไว้ให้ท่าน ไหนล่ะ…….ระบอบประชาธิปไตยที่ท่านเคยบอกว่าจะสร้างสรรค์มันขึ้นมา และไหนล่ะ…….สิทธิเสรีภาพของประชาชนภายใต้ประเทศที่ได้ชื่อว่า “ปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย”
เราขอเรียกร้องให้บรรดาเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบต่อนโบายดังกล่าวทบทวนเสียใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ส.ส. ที่เป็นมุสลิมน่าจะพิจารณาตัวเองบ้างว่า ขณะนี้ท่านกำลังทำอะไรอยู่ เพียงแต่ต้องการลาภยศชื่อเสียงกระนั้นหรือ คำนึงบ้างไหมว่า ท่านเคยสัญญากับพี่น้องว่าจะร่วมต่อสู้และคัดค้านทุกสิ่งทุกอย่างที่มาเหยียดหยามพวกเรา หรือว่าท่านลืมหมดแล้ว…..เอาไว้ไปโกหกตอนเลือกตั้งใหญ่ปี 2530 กันใหม่ ถ้าหากว่าพวกท่านยังเฉยต่อกรณีนี้ ขอให้พี่น้องมุสลิมเป็นพยานไปด้วยว่าบุคคลเหล่านี้ ครั้งหนึ่งเคยปลิ้นปล้อนโกหกมดเท็จและชอบฉวยโอกาสหาผลประโยชน์เข้าตัวเองเท่านั้น เพื่อหวังเป็นใหญ่เป็นโตและมีเงินมากมายมหาศาล โดยมิได้คำนึงถึงพี่น้องมุสลิมซึ่งเป็นผู้มอบความไว้วางใจให้เป็นตัวแทน แม้กระทั่งเรื่องผิดหลักการศาสนาท่านยังนั่งเฉยนับประสาอะไรกับเรื่องอื่นๆที่เกิดขึ้นในมาตุภูมิของเรา
ท้ายสุดนี้ขอให้พี่น้องที่รักพึงติดตามกรณีนี้อย่างใกล้ชิด ถ้าหากท่านเพิกเฉยแล้ว ความเป็นมุสลิมของท่านยังไม่บริบูรณ์ เราจะยืนอยู่เคียงค้างความถูกต้องและพร้อมที่จะเคียงบ่าเคียงไหล่กับพี่น้องมุสลิมอย่างถึงที่สุด
ด้วยสลามและดุอาร์
กลุ่มพิทักษ์มุสลิม
1 ธันวาคม 2528
อันที่จริงแล้วก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ประท้วงกรณีนำพระพุทธรูปไปประดิษฐานในโรงเรียนควนโดนที่มีนักเรียนผู้นับถือศาสนาอิสลามเรียนอยู่มากถึง 95% นั้น กรณีนี้ นายจิรายุส เนาวเกตุ เคยนำหารือกับ นายเล็ก นานา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กรุงเทพมหานคร ซึ่งมีตำแหน่งเป็นเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ และนายเล็กฯ ได้ยกประเด็นนี้หารือในพรรคเพื่อขอทราบความชัดเจนในนโยบายแล้ว ซึ่งต่อมานายสัมพันธ์ ทองสมัคร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการได้มีหนังสือชี้แจงต่อนายเล็กฯ เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2528 ข้อความในหนังสือดังกล่าวมีดังนี้
ที่ ศธ.0100/88.
กระทรวงศึกษาธิการ กทม. 10300
5 มิถุนายน 2528
เรื่อง. ชี้แจงข้อเท็จจริง
เรียน. เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์
ตามที่ท่านได้สอบถามเกี่ยวกับโครงการจัดหาพระพุทธรูปประจำสถานศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ ด้วยเกรงว่าจะก่อให้เกิดปัญหาในทางปฏิบัติต่อโรงเรียนที่มีนักเรียนนับถือศาสนาอื่นเป็นส่วนมากนั้น
กระผมใคร่ขอเรียนชี้แจงว่า ในการปฏิบัติตามโครงการจัดหาพระพุทธรูปประจำสถานศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ ทางกระทรวงไม่บังคับว่าทุกโรงเรียนจะต้องจัดในลักษณะเดียวกันทั้งหมด การจะจัดโครงการนี้ในลักษณะใดให้อยู่ในดุลพินิจของโรงเรียน โดยกำหนดแนวปฏิบัติกว้างๆ ไว้ดังนี้
1. โรงเรียนใดที่มีนักเรียนส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ และมีนักเรียนที่นับถือศาสนาอื่นอยู่ด้วยนั้น ให้ทางโรงเรียนจัดห้องหรือสถานที่สำหรับนักเรียนศาสนาอื่นได้บำเพ็ญศาสนกิจเป็นการเฉพาะด้วย
2. โรงเรียนใดที่ดำเนินกิจการโดยคณะบุคคลหรือองค์กรทางศาสนาอื่น ก็ขอให้ได้จัดสถานที่หรือห้องจริยธรรมสำหรับนักเรียนที่นับถือศาสนาพุทธได้ศึกษาและปฏิบัติศาสนกิจไว้เป็นการเฉพาะด้วย
3. โรงเรียนใดที่มีนักเรียนส่วนใหญ่หรือเกือบทั้งหมด นับถือศาสนาอื่น จะจัดพระพุทธรูปหรือไม่่ให้อยู่ในดุลพินิจของสถานศึกษานั้น ทางกระทรวงไม่ได้บังคับ
กระผมใคร่ขอกราบเรียนว่า การดำเนินการตามโครงการนี้ในระยะแรกอาจมีปัญหาสำหรับโรงเรียนที่นักเรียนส่วนใหญ่นับถือศาสนาอื่น และโรงเรียนที่ดำเนินการโดยคณะบุคคลและองค์กรศาสนาอื่นอยู่บ้าง แต่หลังจากที่กระทรวงได้มีหนังสือซักซ้อมความเข้าใจไปแล้ว คงจะไม่มีปัญหาในทางปฏิบัติอีกต่อไป
จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ และขอขอบพระคุณเป็นอย่างสูงที่กรุณาให้ความสนใจต่องานของกระทรวงศึกษาธิการ หากมีข้อเสนอแนะใดๆกระทรวงศึกษาธิการยินดีน้อมรับไว้พิจารณา
ขอแสดงความนับถือ
สัมพันธ์ ทองสมัคร
( นายสัมพันธ์ ทองสมัคร )
รัฐมนตรีช่วยว่าการการทรวงศึกษาธิการ
สำนักเลขานุการรัฐมนตรี
โทร. 281-1015
จากหนังสือคำชี้แจงของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (นายสัมพันธ์ ทองสมัคร) ถึง เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ (นายเล็ก นานา) จะเห็นได้ว่ายังมีข้อบกพร่องในทางปฏิบัติอยู่ในข้อ 3. ที่ให้อำนาจสถานศึกษาที่มีนักเรียนส่วนใหญ่หรือทั้งหมด นับถือศาสนาอื่น ใช้ดุลพินิจของตนว่า จะจัดพระพุทธรูปประจำสถานศึกษาหรือไม่ ด้วยข้อบกพร่องในข้อ 3. นี้เอง โรงเรียนควนโดนที่มี่นักเรียนมุสลิมมากถึง 95% จึงใช้ดุลพินิจจัดพระพุทธรูปประจำสถานศึกษาโรงเรียนควนโดน จึงได้เกิดปัญหาขึ้นมาถึงขั้นผู้ปกครองนักเรียนมุสลิม ผู้นำศาสนาอิสลาม ผู้นำท้องถิ่นที่เป็นมุสลิม ได้แสดงปฏิกริยาก่อหวอดชุมนุมประท้วงคัดค้านอย่างแข็งขันและมีนักการเมืองระดับชาติสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ( นายจิรายุส เนาวเกตุ ) เป็นตัวชูโรงออกหน้าออกตาปราศรัยบนเวทีคัดค้านนโยบายของพรรคตนเองอย่างไม่เกรงใจใคร ประชาชนมุสลิมทุกสารทิศในจังหวัดใกล้เคียงและสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้เดินทางมาสมทบร่วมชุมนุมประท้วงคัดค้านนับจำนวนหมื่นคนใช้เวลานานร่วมเดือน ผลทำให้สถานศึกษาโรงเรียนควนโดนต้องยอมตามผู้ชุมนุมประท้วงในที่สุด
ดังนั้น นายจิรายุสฯ จึงกลายเป็นพระเอกขวัญใจของพี่น้องชาวมุสลิมจังหวัดสตูลและมุสลิมทั่วๆ ไป แต่ในขณะเดียวกันกลับกลายเป็นแกะขาวตัวเดียวในพรรคประชาธิปัตย์ และยังเป็นวายร้ายของคนที่มีความอคติต่ออิสลามนับตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา
อดีต รมช.กระทรวงศึกษาธิการ, สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหลายสมัยของจังหวัดนราธิวาส, ปริญญาตรี สาขานิติศาสตร์ และปริญญาโทสาขาบริหารรัฐกิจ จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์