สุลต่านกาบูส บิน ซาอิด แห่งโอมานได้สิ้นพระชนม์แล้วในวันศุกร์ 11 ม.ค. ตอนเย็น (ตามเวลาท้องถิ่น)
ทวิตเตอร์ของสำนักข่าวโอมาน เช้าตรู่วันเสาร์ยืนยันการตายของสุลต่านวัย 79 พรรษา
สุลต่านมีปัญหาด้านสุขภาพ และได้พักรักษาพระวรกายที่ประเทศเยอรมนีด้วยเหตุผลด้านการแพทย์ซึ่งไม่มีการเปิดเผยต่อสาธารณชน ก่อนที่จะเสด็จกลับสู่โอมานเมื่อไม่นานมานี้
#ديوان_البلاط_السلطاني يصدر صباح اليوم نعياً فيما يلي نصه :
(يَا أَيَّتُهَا النَّفْسُ الْمُطْمَئِنَّةُ*ارْجِعِي إِلَى رَبِّكِ رَاضِيَةً مَرْضِيَّةً * فَادْخُلِي فِي عِبَادِي*وَادْخُلِي جَنَّتِي) إلى أبناء الوطن العزيز في كل أرجائه إلى الأمتين العربية والإسلامية وإلى العالم أجمع. pic.twitter.com/FXk8Q7pHI8— وكالة الأنباء العمانية (@OmanNewsAgency) January 11, 2020
สุลต่านกาบูสขึ้นสู่ตำแหน่งของตนด้วยการขับไล่พระราชบิดา ซาอิด บินไตมูร์ (Said bin Taimur) ผ่านการทำรัฐประหารที่ไร้การนองเลือดในเดือนกรกฎาคม 1970 พระองค์ถูกรู้จักในฐานะผู้นำที่ยาวที่สุดในโลกอาหรับและตะวันออกกลาง
โอมานเป็นพันธมิตรที่แข็งแกร่งที่สุดของอิหร่านในอ่าวเปอร์เซีย
อย่างไรก็ตามสุลต่านไม่มีลูกหลานหรือประกาศผู้สืบทอดบัลลังก์
ตามที่สำนักข่าวรอยเตอร์ระบุ กฎหมายปี 1996 กำหนดให้ตระกูลผู้ปกครองต้องเลือกผู้สืบทอดตำแหน่งใหม่สำหรับที่บัลลังก์ว่างภายในสามวัน หากพวกเขาล้มเหลวในการทำเช่นนั้น สภาซึ่งประกอบด้วยทหาร หัวหน้าศาลสูงสุด และผู้แทนสมัชชามีสิทธิที่จะแต่งตั้งบุคคลที่มีชื่อที่ถูกปิดผนึกในจดหมายที่เขียนโดยสุลต่าน