แพทย์อิหร่าน 101 คน ออกโรงเตือนประเทศเพื่อนบ้าน โควิด-19 เป็นการโจมตีทางชีวภาพของสหรัฐฯ

© AFP 2020 / KHALIL MAZRAAWI

กลุ่มแพทย์ชาวอิหร่านจำนวน 101 คนได้เขียนจดหมายถึงผู้นำของอัฟกานิสถาน, จอร์เจีย, อิรัก, คาซัคสถาน, คีร์กีซสถาน และปากีสถาน เตือนให้ดำเนินการทำลาย “ห้องปฏิบัติการทางชีววิทยาทั้งหมดของสหรัฐฯ” ในประเทศของพวกเขา ‘โดยทันที’ ชี้การระบาดของไวรัสโคโรนาอาจเป็นการระบาดอย่างจงใจในรูปแบบของสงครามชีวภาพ สปุตนิกสื่อรัสเซียรายงานอ้างอิงทีวีอิหร่าน

“เราในฐานะกลุ่มแพทย์ชาวอิหร่านที่เชี่ยวชาญโรคติดเชื้อและโรคปอด โรคหอบหืดและโรคภูมิแพ้ กำลังเป็นประจักษ์พยานว่าเพื่อนร่วมชาติจำนวนมากของเราติดเชื้อไวรัสนี้ และเช่นเดียวกับแพทย์ทุกคนทั่วโลกเรากำลังพยายามทั้งกลางวันและกลางคืนเพื่อรักษาและช่วยชีวิตพวกเขา” จดหมายระบุ

“แต่มีหลักฐานมากมาย ทั้งในบทความวิทยาศาสตร์ชั้นนำของโลกและในสื่อต่างๆ อ้างอิงนักพันธุศาสตร์และนักชีววิทยา และเอกสารของวิกิลีกส์ (WikiLeaks) ที่ตอกย้ำการคาดการณ์เกี่ยวกับการดัดแปลงโควิด-19 ในห้องปฏิบัติการชีวภาพ และการโจมตีทางชีวภาพของสหรัฐฯ ผ่านไวรัสนี้เพื่อโจมตีประเทศคู่แข่ง” จดหมายนี้กล่าว

กลุ่มแพทย์อิหร่านได้อ้างถึงคำถามล่าสุดจากนายจ้าว ลี่เจียน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีนเกี่ยวกับต้นกำเนิดของไวรัสและการสันนิษฐานของเขาว่า “อาจเป็นกองทัพสหรัฐฯที่นำการแพร่ระบาดนี้ไปยังหวู่ฮั่น” ซึ่งประธานาธิบดีทรัมป์ได้ปฏิเสธข้ออ้างเหล่านั้นในวันอังคาร (17 มี.ค.) เรียกมันว่าเรื่อง “เท็จ” และบอกว่าทหารสหรัฐฯ “ไม่ได้พา [โควิด-19] ไปให้แก่ใคร”

ในจดหมายของพวกเขา แพทย์อิหร่านกล่าวโทษสหรัฐว่า มีประวัติการใช้อาวุธชีวภาพ และชี้ถึงนิสัยของสหรัฐฯ ในการถอนตัวจากข้อตกลงและสนธิสัญญาระหว่างประเทศ ดังนั้นสหรัฐฯ จึงสามารถ “ท้าทาย” ข้อตกลงระหว่างประเทศที่มุ่งควบคุมการพัฒนาอาวุธชีวภาพ เช่นพิธีสารเจนีวาและอนุสัญญาว่าด้วยการห้ามการพัฒนา การผลิต และการสะสมอาวุธแบคทีเรียและสารพิษ

ในวันพุธที่ผ่านมา (18 มี.ค.) หัวหน้าสภาความมั่นคงแห่งชาติของอิหร่าน “อาลี ชัมคานี” ทวีตว่า สหรัฐฯควร “ตอบสนองต่อข้อซักถามระหว่างประเทศเกี่ยวกับบทบาทของอเมริกาในการสร้างและแพร่กระจาย ไวรัสโคโรนา” แทนที่จะ “ กล่าวหาอิหร่านและจีนว่ากล่าวเรื่องเท็จ” ตามคำกล่าวของชัมคานี “การเล่นเกมกล่าวโทษนั้น เป็นวิธีการทั่วไปในการหนีความรับผิดชอบ”

ก่อนหน้านี้ในการแถลงข่าวเมื่อวันอังคาร ไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ได้ซัดกลับประเทศจีนว่าเผยแพร่ “ข่าวลือนอกประเทศ” หลังจีนออกมาระบุว่า สหรัฐฯ ต้องรับผิดชอบต่อการระบาดของ โควิด-19 และพร้อมกันนั้นปอมเปโอยังซัดกลับอิหร่านว่า “ไวรัสอู่ฮั่นคือฆาตกร และระบอบการปกครองของอิหร่านคือผู้สมรู้ร่วมคิด” คำพูดของปอมเปโอทำตามแบบอย่างของประธานาธิบดีทรัมป์ที่เรียกชื่อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่นี้ว่า “ไวรัสจีน”

ด้วยผู้ป่วยกว่า 17,300 ราย และเสียชีวิต 1,135 คน จนถึงปัจจุบันอิหร่านนับเป็นหนึ่งในประเทศที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดจากโควิด-19 โดยไวรัสดังกล่าวไม่เพียงส่งผลกระทบต่อประชากรในวงกว้าง แต่ยังแพร่กระจายไปยังชนชั้นนำทางการเมืองอีกด้วย เมื่อสัปดาห์ที่แล้วผู้นำสูงสุดอิหร่าน “อะลี คาเมเนอี” กล่าวว่ามีหลักฐานว่าการระบาดใหญ่นี้อาจเป็น “การโจมตีทางชีวภาพ”

ข้อสงสัยเรื่องอาวุธชีวภาพของสหรัฐฯ

ในฐานะที่เป็นภาคีของอนุสัญญาว่าด้วยอาวุธชีวภาพและสารพิษ สหรัฐอเมริกาไม่ได้รับอนุญาตในการพัฒนา การผลิต และการเก็บรักษาอาวุธชีวภาพใดๆ อย่างไรก็ตามสหพันธ์นักวิทยาศาสตร์อเมริกันได้กล่าวหาว่า วอชิงตันทำการทดลองต่อเนื่องกับสารชีวภาพที่อยู่ในระดับ “ไม่ถึงทำให้ตาย”

นอกจากนี้ รัสเซีย อดีตเจ้าหน้าที่ในรัฐจอร์เจีย และสื่อต่างๆ ได้แสดงความสงสัยซ้ำๆ ว่า ศูนย์การวิจัยด้านสาธารณสุขของลูการ์ในเมืองทบิลิซี อาจมีโครงการอาวุธลับทางชีวภาพที่ดำเนินการโดยกองทัพสหรัฐและบริษัทเอกชนที่ทำสัญญาคู่ค้ากับสหรัฐ

ดิลยานา เกย์ธานชิว่า (Dilyana Gaytandzhieva) นักข่าวสืบสวนสอบสวนอิสระชาวบัลแกเรีและผู้สื่อข่าวตะวันออกกลาง ได้รายงานอย่างเอิกเกริกเกี่ยวกับโครงการทางการทหารของสหรัฐฯ ที่มีมูลค่าหลายพันล้านดอลล่าร์ ซึ่งกล่าวถึงห้องปฏิบัติการชีวภาพที่ได้รับทุนสนับสนุนจากกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ซึ่งตั้งอยู่ตามที่ต่างๆ ทั่วโลกมากกว่า 20 ประเทศ รวมถึง 10 ประเทศในแอฟริกา, 6 ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และ 9 ประเทศรอบๆ อิหร่านและรัสเซีย รวมถึงอิรัก จอร์แดน อาเซอร์ไบจาน จอร์เจีย อัฟกานิสถานอัฟกานิสถาน ปากีสถาน อุซเบกิสถาน คาซัคสถาน และยูเครน