ภาพในพิธีฮัจย์ เมื่อปี ค.ศ.1953 หรือราว 60 กว่าปีที่ผ่านมา ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงไปมากเมื่อเทียบกับปัจจุบัน ส่วนใหญ่อันเนื่องมาจากจำนวนที่เพิ่มมากขึ้นของผู้แสวงบุญนั่นเอง
ผู้แสวงบุญจำนวนมากจะเดินทางไปยังนครเมกกะห์ผ่านทางเรือ โดยในยุคนั้นการเดินทางทางอากาศในเชิงพาณิชย์ ยังคงอยู่ในขั้นเริ่มต้น และไม่ได้แพร่หลายอย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
สำหรับผู้ที่สามารถจ่ายได้ ก็จะเดินทางโดยเครื่องบินขนาดเล็กจากประเทศใกล้เคียง
เช่นปัจจุบัน ที่รถโค้ชและรถโดยสารถูกใช้ในการขนส่งผู้แสวงบุญจากสถานที่หนึ่งไปยังอีกสถานที่หนึ่ง
เฉพาะชาวมุสลิมเท่านั้นที่ได้รับอนุญาตให้เข้าสู่สถานประกอบพิธีฮัจญ์
ที่อยู่อาศัยและโรงแรม ที่สามารถมองเห็นจากมัสยิดอันศักดิ์สิทธิ์ ส่วนมากของอาคารทางประวัติศาสตร์ เหล่านี้ต้องถูกรื้อถอนทำลายเพื่อขยายมัสยิด
บนถนนที่คึกคักสายหนึ่งในนครมักกะห์ สามารถเห็นหอคอยสุเหร่าสไตล์ออตโตมัน
หนึ่งในประตูทางเข้ามัสยิดอัลหะรอม
ผู้แสวงบุญขณะละหมาดนอกทางเข้ามัสยิด
ผู้แสวงบุญสามารถเข้าไปด้านในของอาคารกะบะห์ได้
ผู้แสวงบุญขณะตอวาฟ (เดินวน) รอบกะบะห์ได้อย่างสะดวก โดยผู้คนไม่ได้แน่นขนัดอย่างเช่นในปัจจุบันนี้
ตลาดและร้านค้าใกล้มัสยิดอัลหะรอม
ผู้แสวงบุญสามารถเลือกสัตว์ที่พวกเขาต้องการ ไว้สำหรับใช้เชือดพลีในพิธีฮัจย์
ผู้แสวงบุญจะต้องดูแลสัตว์เลี้ยงของตนในช่วงฮัจญ์
ลาถูกนำมาใช้ในการขนส่งสัตว์ที่ถูกเชือดพลี
ที่มีนา อาหารจะได้รับการปรุงโดยใช้ไฟและเตา
ผู้แสวงบุญละหมาดใกล้กับอูฐของตน
Jamarat เคยเป็นเสาขนาดเล็ก ซึ่งจะถูกขว้างด้วยก้อนหิน เป็นสัญลักษณ์ของมารร้าย
ผู้แสวงบุญโกนผมในพิธีฮัจย์
ผู้แสวงบุญเพิ่มความสดชื่นให้ตัวเอง ด้วยการดื่มน้ำเย็น น้ำแข็ง น้ำอัดลม
—–
Photos courtesy of the National Geographic Magazine
Source http://ilmfeed.com/25-amazing-photos-hajj-1953/