ซาอุดิอาระเบียและบาห์เรนกำลังจะลงนามในข้อตกลงเพื่อปรับความสัมพันธ์กับอิสราเอลให้เป็นปกติเช่นเดียวกับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
เว็บไซต์ภาคภาษาอาหรับ ของนสพ.”Arabi 2″ รายงานในศุกร์ (14 ส.ค.) เผย แหล่งข่าววงในยืนยันกับตนว่า การฟื้นฟูความสัมพันธ์อย่างเป็นทางการระหว่างสองประเทศอาหรับและอิสราเอลจะเกิดขึ้น “ในเวลาอันใกล้นี้” โดยตั้งข้อสังเกตว่า “การสร้างสัมพันธ์ให้เป็นปกติ” นี้มีเป้าหมายเพื่อ “สนับสนุนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯในการเลือกตั้งที่ความนิยมของเขาลดลงอย่างเห็นได้ชัด”
แหล่งข่าวเพิ่มเติมว่า “การอยู่รอดในอำนาจของทรัมป์มีความสำคัญต่อมกุฎราชกุมารโมฮัมเหม็ด บินซัลมาน เพื่อให้แน่ใจว่าเขาจะได้ปกครองซาอุฯ ต่อไป”
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (13 ส.ค.) บาห์เรนแสดงความยินดีกับข้อตกลงการปรับความสัมพันธ์เป็นปกติระหว่างอิสราเอลและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยกล่าวว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็น “ขั้นตอนที่จะเพิ่มโอกาสในการบรรลุสันติภาพในตะวันออกกลาง”
กระทรวงต่างประเทศบาห์เรนกล่าวในแถลงการณ์ว่า “ราชอาณาจักรบาห์เรนขอแสดงความยินดีอย่างสุดซึ้งต่อเอมิเรตส์ในการประกาศร่วมกับสหรัฐฯและอิสราเอลว่าได้บรรลุข้อตกลงที่จะหยุดการผนวกดินแดนปาเลสไตน์ และดำเนินการตามขั้นตอนต่างๆ ที่ช่วยเพิ่มโอกาสในการบรรลุสันติภาพในตะวันออกกลาง”
ถ้อยแถลงยังอธิบายถึงข้อตกลงเอมิเรตส์ – อิสราเอลว่าเป็น “ย่างก้าวประวัติศาสตร์” ซึ่ง “จะมีส่วนร่วมในการเสริมสร้างเสถียรภาพและสันติภาพในภูมิภาค”
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ได้ประกาศการฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และอิสราเอลอย่างเต็มรูปแบบ
ทรัมป์กล่าวในทวีตของเขาว่า “ความก้าวหน้าครั้งใหญ่ในวันนี้ (… ) เป็นข้อตกลงสันติภาพครั้งประวัติศาสตร์ระหว่างเพื่อนที่ยิ่งใหญ่สองคน คือ อิสราเอลและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์”
ในบริบทที่เกี่ยวข้อง โมฮัมเหม็ด บินซาเยด มกุฎราชกุมารแห่งอาบูดาบีและผู้ปกครองเอมิเรตส์ยืนยันในทวีตของเขาว่า มีข้อตกลงด้วยที่จะหยุดการผนวกดินแดนปาเลสไตน์ของอิสราเอลไว้ก่อน ในระหว่างการสนทนาทางโทรศัพท์กับทรัมป์ และเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล
บินซาเยดกล่าวเพิ่มเติมว่า “สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และอิสราเอลได้ตกลงที่จะวางแผนงานเพื่อเปิดตัวความร่วมมือร่วมกันซึ่งจะนำไปสู่ความสัมพันธ์ทวิภาคี”
ที่ผ่านมาประเทศอาหรับไม่มีความสัมพันธ์อย่างเป็นทางการกับอิสราเอล ยกเว้นอียิปต์และจอร์แดน