Yenisafak/Sputnik – ตุรกีกำลังพิจารณาปิดสถานทูตของตนในอาบูดาบี และระงับความสัมพันธ์ทางการทูตกับยูเออี เออร์โดกันเผยในวันศุกร์ (14 ส.ค.)
ประธานาธิบดีเรเยพ ตอยยิบ เออร์โดกัน กล่าวกับผู้สื่อข่าวในอิสตันบูลว่า ตุรกีกำลังพิจารณาปิดสถานทูตของตนในอาบูดาบี และระงับความสัมพันธ์ทางการทูตกับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หลังประเทศนี้สถาปนาความสัมพันธ์กับอิสราเอลให้เป็นปกติ
“เราอาจเรียกเอกอัครราชทูตของเรากลับจากอาบูดาบีได้หากจำเป็น เนื่องจากเราสนับสนุนรัฐบาลปาเลสไตน์” เออร์โดกันกล่าวกับผู้สื่อข่าว
ก่อนหน้าในวันเดียวกันกระทรวงต่างประเทศตุรกีได้ออกมากล่าวว่า ประวัติศาสตร์จะไม่มีวันยกโทษให้กับ “พฤติกรรมหน้าซื่อใจคด” ของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ในการทำข้อตกลงดังกล่าว
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯประกาศว่า อิสราเอลและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ได้สรุปข้อตกลงสันติภาพเพื่อปรับความสัมพันธ์ให้เป็นปกติและสสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต ข้อสรุปของดีลดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากอิสราเอลระงับแผนการขยายอำนาจอธิปไตยเหนือพื้นที่บางส่วนของเวสต์แบงก์ซึ่งนำไปสู่การสร้างความสัมพันธ์กับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
เอมิเรตส์เป็นอาหรับชาติที่สามที่สร้างความสัมพันธ์กับอิสราเอล นอกจากอีกสองชาติคืออียิปต์และจอร์แดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ แสดงความหวังว่ารัฐอาหรับและมุสลิมจะเห็นพ้องที่จะปรับความสัมพันธ์กับอิสราเอลให้เป็นปกติ
กระทรวงการต่างประเทศของรัฐบาลปาเลสไตน์ประกาศเมื่อวันพฤหัสบดีว่า ได้เรียกนักการทูตระดับสูงในอาบูดาบีกลับเพื่อประท้วงการตัดสินใจของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ในการปรับความสัมพันธ์ทางการทูตกับอิสราเอลให้เป็นปกติ