คนไทยมีนิสัยชอบตามใจตัวเองนะครับ อาจจะเพราะเราคือชนชาติที่เคยชินกับการเป็นอิสระ รักในเสรีภาพและมีความเป็นตัวของตัวเองสูง จึงดูคล้ายว่าคนไทยนี่เอาใจยากทำอะไรก็ไม่ค่อยถูกใจสักที
หลักฐานสำคัญที่ยืนยันคำที่ผมกล่าวไปก็ให้ลองเมียงๆมองๆตามร้านก๋วยเตี๋ยวนี่แหละครับ เราจะเห็นว่าคนไทยรักเสรีภาพจริงๆเพราะกว่า 90% จะมีแต่คน “ปรุง” ก๋วยเตี๋ยวกันเป็นล่ำเป็นสัน ไม่ว่าร้านนั้นจะมีสูตรน้ำซุปจากบรรพบุรุษที่สืบทอดกันมากี่ร้อยปี หรือใช้ไขกระดูกมังกรมาเคี่ยวซุป พอยกมาเสิร์ฟปุ๊บ พี่ไทยเราก็จะสาด พริก น้ำปลา น้ำตาล ลงไปโครมๆตามใจฉันอยู่ดี ตรงข้ามกับชาวยุโรปที่อาจจะมีเติมรสชาติอาหารบ้างก็มีแค่เกลือกับพริกไทยนิดหน่อย หรือชาวตะวันออกอย่างจีนหรือญี่ปุ่นนี่เห็นความต่างได้ชัดเพราะชาวญี่ปุ่นเสิร์ฟมาแบบไหนก็กินกันแบบนั้นเลยในขณะที่พ่อครัวแม่ครัวเองก็จะหัวเสียมากๆ ถ้าเสิร์ฟก๋วยเตี๋ยวบะหมี่ออกไปแล้วลูกค้าเอาไปปรุงซึ่งถือว่าเสียมารยาทอย่างแรง
[quote_box_left][/quote_box_left]
เพราะเหตุนั้น หลายๆ ครั้งคนทำอาหารจึงเกิดความไม่มั่นใจ ทำอาหารให้ใครชิมก็กลัวว่าจะถูกใจเขามั้ย ที่เขาชมว่าอร่อยนี่แค่พูดตามมารยาทหรือเปล่าก็กลายเป็นอย่างนั้นไป (นิสัยชอบปรุงของคนไทยนี่น่ากลัวจริงๆนะครับ ขนาดกินโจ๊กยังใส่น้ำส้มงี้ พริกงี้ลงไป เป็นการทำลายขวัญของคนทำอาหารให้กระเจิงได้ดีจริงๆ)
พอกันทีศรีจะไม่ทน! ในเมื่อคนรอบตัวคุณๆเอาใจยากขนาดนี้ ปรุงยังไงรสชาติก็ไม่ถูกใจสักที วันนี้ผู้เขียนขอเสนอเมนูที่จะเป็นนิยามของคำว่า “ไม่พอใจก็เชิญทำเองสิครับ!” และชื่อเมนูที่ขอนำเสนอในวันนี้คือ…
“แกงส้มกรอบ สูตรชอบรสไหนก็ตามใจพี่”
วัตถุดิบ
– พริกแกงส้ม (จะตำเองหรือซื้อเอาก็ตามใจพี่นะครับ)
– เห็ด หรือผักอื่นๆหรือเนื้อสัตว์อะไรก็ได้ที่เอาไปชุบแป้งทอดได้ เอาตามที่พี่สบายใจเลยครับ (ผู้เขียนมีแต่เห็ดในตู้เย็นครับ เลยใช้แต่เห็ด)
– แป้งชุบทอด (ผสมน้ำเย็นจัด, ไข่ 1 ฟอง , เกลือ, พริกไทย)
– มะขามเปียก
– น้ำตาล (ผู้เขียนใช้น้ำตาลมะพร้าว ไม่ใช่ว่าเป็นเทคนิคอะไรนะครับแต่มันมีอยู่แล้วในตู้เย็น)
วิธีทำ
– เอาของที่จะทอดไปชุบแป้งทอดที่ผสมไว้แล้วตามที่บอกด้านบน
– ชุบเสร็จก็ทอดสิครับจะรออะไร ทอดในน้ำมันท่วมๆ ไฟกลางแต่ต้องให้น้ำมันร้อนจัดนะครับ
– ทำน้ำซุปโดยละลายพริกแกงในน้ำเปล่าที่ตั้งไฟให้ร้อน ชิมดูให้ออกรสเผ็ดเติมน้ำปลาเพิ่มความเค็ม(ถ้าไม่ชอบน้ำปลาก็ใช้เกลือครับ แต่ผู้เขียนชอบกลิ่นเหม็นๆคาวๆของน้ำปลา)
– ทำน้ำซอสด้วยการเคี่ยวน้ำมะขามเปียกกับน้ำตาลมะพร้าว เคี่ยวด้วยไฟอ่อนจนน้ำมะขามข้นหนืดกลายเป็นซอส ชิมรสให้ออกเปรี้ยวหวานนะครับ
– จัดเสิร์ฟโดยวางของทอดลงในชาม แล้วราดซอสมะขาม แล้วค่อยๆเติมซุปให้ไปผสมกันในชาม ถ้าชอบรสเปรี้ยวหวานก็เติมซอสเพิ่ม ถ้าชอบรสเผ็ดๆเค็มๆก็เติมซุปเพิ่ม ก็จะสามารถปรับรสชาติได้ตามใจพี่เลยครับ
ด้วยวิธีนี้ สมาชิกร่วมโต๊ะอาหารก็จะสามารถปรุงรสแกงได้ตามใจชอบ ใครชอบแบบไหนก็ตามใจ ปรุงใครปรุงมัน (อารมณ์คล้ายปรุงน้ำจิ้มสุกี้ในถ้วยตัวเอง) แค่นี้ก็หมดปัญหาเรื่องแกงหม้อเดียวกลับไม่สามารถปรุงรสให้ถูกใจคนหลายคนได้แล้วครับ