วันที่ 2 พฤศจิกายน 2563 นางสาวศศิธร อินทกุล ผู้ตรวจราชการกรม กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย นำคณะผู้บริหาร บุคลากรกรมการพัฒนาชุมชน ผู้นำชุมชน กลุ่มองค์กร หน่วยงานภาคีและประชาชนผู้สนใจ จำนวน 220 คน ถวายราชสักการะต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และร่วมบริจาคโลหิตใน “โครงการบริจาคโลหิตเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล แด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนารถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง” ครั้งที่ 2 เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2563 โดยมีเจ้าหน้าที่จากศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติสภากาชาดไทย มารับบริจาค ณ ห้องประชุม 3003 กรมการพัฒนาชุมชน ถนนแจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ
นางสาวศศิธร อินทกุล กล่าวว่า ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาอย่างหาที่สุดไม่ได้ที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงมีพระวิริยะอุตสาหะ ตรากตรำบำเพ็ญพระราชกรณียกิจนานัปการ เพื่อให้คนไทยได้มีอาชีพ มีรายได้ ในโอกาสเดือนมหามงคลนี้เป็นโอกาสที่ดีที่จะส่งเสริมให้ประชาชน ผู้นำชุมชน องค์การชุมชน และเครือข่ายองค์การชุมชน ได้มีส่วนร่วมในการทำความดีด้วยความสมัครใจ มีจิตสำนึกสาธารณะโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน กรมการพัฒนาชุมชน นำโดยท่านอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ มีความประสงค์ที่จะให้ข้าราชการในสังกัด และภาคีเครือข่าย ได้ร่วมกันทำความดีจึงได้จัดทำโครงการนี้ขึ้น โดยมีเครือข่ายผู้นำของกรมการพัฒนาชุมชนจาก 10 จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดนนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ นครปฐม นครนายก สมุทรสาคร สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง และจังหวัดสิงห์บุรี ข้าราชการเจ้าหน้าที่ กรมการพัฒนาชุมชนส่วนกลาง และภูมิภาค นอกจากนี้ยังมีบุคลากรหน่วยงานราชการสังกัดกระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานที่ตั้งอยู่ในบริเวณศูนย์ราชการฯ ถนนแจ้งวัฒนะ และในพื้นที่ใกล้เคียง ประกอบด้วย กรมการปกครอง กรมที่ดิน กรมโยธาธิการและผังเมือง และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค รวมจำนวนกว่า 220 คน ร่วมกิจกรรมครั้งนี้ คาดว่าจะได้รับการบริจาคโลหิตไม่น้อยกว่า 77,000 ซีซี จากผู้บริจาคต่อคนอย่างน้อย 350 ซีซี เพื่อให้มีโลหิตสำรองสำหรับผู้เจ็บป่วย และเป็นการสร้างบุญกุศลที่ยิ่งใหญ่จากการบริจาคโลหิต ถวายเป็นพระราชกุศล ซึ่งในครั้งนี้จัดเป็นครั้งที่ 2 แล้ว ได้รับความร่วมมือจากข้าราชการ พช. หน่วยงานภาคี ต้องขอขอบคุณสภากาชาดไทย และผู้ร่วมบริจากโลหิตทุกท่านอีกครั้งหนึ่ง
ผู้ตรวจราชการกรม พช. กล่าวเพิ่มเติมว่า สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงมีพระราชหฤทัยแน่วแน่ ในการที่จะส่งเสริมสนับสนุนให้พี่น้องสตรีไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้นำสตรีไทยที่อยู่ทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย ได้ช่วยกันเป็นแกนหลัก ในการยกระดับพัฒนาคุณภาพชีวิตให้สตรีไทยเป็นผู้นำเพิ่มมากขึ้น เป็นผู้นำของสังคมในการดูแลครอบครัว ดูแลประเทศชาติ ดูแลสังคม และที่สำคัญที่สุดก็คือ หน้าที่ของสตรีไทยที่ทรงพระราชทานไว้ให้ คือต้องช่วยกันพัฒนายกระดับให้สตรีไทย ได้มีความรู้ความสามารถเพิ่มพูนอยู่ตลอดเวลา ทรงมีพระวิริยะ พระปรีชาชาญ พลิกฟื้นผ้าทอไทยทั้งผ้าไหม ผ้าฝ้าย ให้ผ้าไทยเป็นที่นิยมในสังคมจวบจนปัจจุบัน ได้สร้างงาน สร้างอาชีพทอผ้าแก่สตรีทั่วทุกภูมิภาค
และกรมการพัฒนาชุมชน มีภารกิจสำคัญซึ่งได้รับความไว้วางใจจากรัฐบาล กระทรวงมหาดไทย ให้ดำเนินการขับเคลื่อนงานกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี เพื่อสร้างโอกาสให้สตรีเข้าถึงแหล่งเงินทุนสำหรับการลงทุนเพื่อพัฒนาอาชีพ สร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ ตลอดจนส่งเสริมบทบาทและพัฒนาศักยภาพสตรีและเครือข่ายสตรี จะเห็นได้ว่าสตรีไทยมีบทบาททางสังคมมากขึ้น และหากสตรีไทยมีโอกาสในการพัฒนาศักยภาพ พัฒนาความรู้ความสามารถครบถ้วนทุกๆ ด้านอย่างต่อเนื่อง ก็จะทำให้สตรีไทยเป็นที่ยกย่องชื่นชมของสังคมโลกต่อไป
“ขอเชิญชวนพี่น้องชาวไทยทั่วประเทศ ร่วมทำความดี เช่น ปลูกต้นไม้ บริจาคโลหิต ทำบุญใส่บาตร หรือกิจกรรมอื่นๆ ตามที่เห็นสมควรเพื่อเป็นปฏิบัติบูชาน้อมเกล้าฯ ถวายเป็นพระราชกุศล เป็นพระพรชัยมงคลบันดาลดลให้สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชินีพันปีหลวง ทรงพระเกษมสำราญ พระพลามัยแข็งแรง มีพระชนมายุยิ่งยืนนาน เป็นร่มโพธิ์ทองปกเกล้าฯเหล่าพสกนิกรชาวไทยตราบนานเท่านาน” นางสาวศศิธร อินทกุล กล่าว