MEMO – รัฐบาลซาอุดีอาระเบียออกมาปฏิเสธ “ไม่เกี่ยวข้อง” กับเหตุการณ์ลอบสังหารนักวิทยาศาสตร์นิวเคลียร์คนสำคัญของอิหร่าน ในกรุงเตหะราน เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
เมื่อวันอังคารที่ 1 ธ.ค. นายอาเดล อัล-จูเบร์ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศซาอุดีอาระเบีย ออกมาวิพากษ์วิจารณ์รัฐมนตรีต่างประเทศของอิหร่านที่กล่าวเป็นนัยว่า ริยาดมีส่วนในการสังหาร โมห์เซน ฟาคริซาเดะห์ นักวิทยาศาสตร์นิวเคลียร์คนสำคัญของอิหร่าน
“นายซารีฟ รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่าน หมดท่าเสียจนต้องตำหนิราชอาณาจักรสำหรับทุกสิ่งที่ไม่ดีที่เกิดขึ้นในอิหร่าน เขาจะโทษเราหรือไม่หากเกิดแผ่นดินไหวหรือน้ำท่วมในอนาคต?” อัล-จูเบร์กล่าวในทวีต
คำพูดของอัล-จูเบร์ดูเหมือนจะเป็นการตอบสนองต่อความคิดเห็นของ นายโมฮัมหมัด จาวาด ซารีฟ ในวันจันทร์ (30 พ.ย.) ซึ่งกล่าวถึงการประชุมลับๆในซาอุดิอาระเบีย ระหว่างมกุฎราชกุมารโมฮัมเหม็ด บินซัลมาน และนายกรัฐมนตรีอิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮู เพื่อร่วมมือในการลอบสังหารฟาคริซาเดะห์
“การเดินทางของปอมเปโอ (รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ) ไปยังภูมิภาคอย่างเร่งรีบ การประชุมไตรภาคีในซาอุดีอาระเบีย และถ้อยแถลงของเนทันยาฮู ล้วนชี้ให้เห็นถึงการสมคบคิดครั้งนี้ ที่ก่อให้เกิดการปฏิบัติการของผู้ก่อการร้ายที่ขี้ขลาดเมื่อวันศุกร์ และการพลีชีพของผู้บริหารระดับสูงคนหนึ่งของประเทศนี้” ซารีฟ เขียนบนอินสตาแกรม
เจ้าหน้าที่อาวุโสของอิหร่านกล่าวว่า เตหะรานสงสัยว่ากลุ่มฝ่ายค้านในต่างประเทศมีส่วนรู้เห็นกับอิสราเอลในการสังหารฟาคริซาเดะห์ซึ่งมหาอำนาจตะวันตกมองว่าเป็นสถาปนิกของโครงการอาวุธนิวเคลียร์ของอิหร่านที่ถูกระงับ
กลุ่มดังกล่าวปฏิเสธข้อกล่าวหา ส่วนสำนักงานของเนทันยาฮูปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการสังหาร
ซาอุดีอาระเบียไม่ได้ประณามการลอบสังหารนี้อย่างเป็นทางการ ซึ่งแตกต่างจากประเทศสมาชิกสภาความร่วมมืออ่าว (GCC) อีก 5 ประเทศ
ในการให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวอาร์ทีของรัสเซียเมื่อวันอังคาร เมื่อถูกถามความคิดเห็นเกี่ยวกับการสังหารนี้ ทูตแห่งสหประชาชาติของริยาดกล่าวว่า ราชอาณาจักร “ไม่สนับสนุนนโยบายการลอบสังหารแต่ประการใด”