แม้จะมีความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ และอิหร่าน และการลอบสังหารนักวิทยาศาสตร์ชาวอิหร่านเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แต่โจ ไบเดน กล่าวว่าเขามีแผนที่จะกลับไปสู่ ข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน ปี 2015 หรือที่เรียกว่า Joint Comprehensive Plan of Action (JCPOA)
ไบเดนแสดงความคิดเห็นดังกล่าวในการให้สัมภาษณ์กับ โธมัส ฟรีดแมน คอลัมนิสต์ของนิวยอร์กไทมส์ ที่บทความของเขาถูกเผยแพร่เมื่อวันพุธ (2 ธ.ค.) บนเว็บไซต์ของนิวยอร์กไทมส์ โดยฟรีดแมนถามไบเดนว่า ยังยืนยันตามมุมมองในบทความที่เขาเขียนในเดือนกันยายนหรือไม่ ข้อเขียนดังกล่าวไบเดนสนับสนุนข้อตกลงในยุคโอบามา โดยอดีตรองประธานาธิบดีกล่าวว่า เขาจะทำงานร่วมกับอิหร่านเพื่อกลับไปที่ JCPOA
“มันจะยาก แต่ใช่” ไบเดนตอบ
อดีตรองประธานาธิบดีกล่าวว่า เขาสนับสนุนการกลับไปยังข้อตกลง JCPOA ในทันที และจากนั้นข้อตกลงที่ตามมาคือจัดการกับโครงการขีปนาวุธของอิหร่าน ไบเดนหวังว่าข้อตกลงที่สองอาจเกี่ยวข้องกับซาอุดีอาระเบียและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เขากล่าวว่า“ วิธีที่ดีที่สุดในการทำให้ภูมิภาคมีเสถียรภาพ” คือจัดการ “กับโครงการนิวเคลียร์”
ตามรายงานของนิวยอร์กไทมส์ ทีมความมั่นคงแห่งชาติของไบเดน มีความเชื่อว่าเมื่อข้อตกลงได้รับการฟื้นฟูจากทั้งสองฝ่ายแล้ว ข้อตกลงดังกล่าวด้วยตัวมันเองต้องมีการเจรจาอีกรอบ เพื่อยืดระยะเวลาในการจำกัดการผลิตวัสดุฟิสไซล์ที่ใช้ในการพัฒนาระเบิดของอิหร่าน
เมื่อฟรีดแมนถามว่า จะเป็นการโง่หรือไม่ที่จะเลิกใช้ประโยชน์จากสิ่งที่ประธานาธิบดีทรัมป์สร้างขึ้นในการคว่ำบาตรน้ำมัน ไบเดนไม่ได้ปฏิเสธข้อโต้แย้ง แต่อธิบายว่าความเสี่ยงที่แท้จริงอยู่ในโครงการนิวเคลียร์ของพวกเขา
“ ดูสิ มีการพูดกันมากมายเกี่ยวกับขีปนาวุธที่มีความแม่นยำและสิ่งอื่นๆ ที่ทำให้ภูมิภาคนี้ไม่มั่นคง” เขากล่าวและเสริมว่า ในมุมมองของเขา “วิธีที่ดีที่สุดในการสร้างเสถียรภาพในภูมิภาค” คือการจัดการ “กับโครงการนิวเคลียร์”
ไบเดนกล่าวเตือนต่อไปว่า หากอิหร่านได้รับระเบิดนิวเคลียร์ ก็จะสร้างแรงกดดันต่ออียิปต์ ตุรกี และซาอุฯ ที่จะต้องจัดหาอาวุธต่างๆ ให้ตนเอง
“ และให้ตายสิ! สิ่งสุดท้ายที่เราต้องการให้เกิดขึ้นสำหรับโลกนี้ คือการเสริมสร้างขีดความสามารถด้านนิวเคลียร์” ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวเสริม
“ ในการปรึกษาหารือกับพันธมิตรและหุ้นส่วนของเรา เราจะมีส่วนร่วมในการเจรจาและปฏิบัติตามข้อตกลงเพื่อกระชับและยืดอายุข้อจำกัดด้านนิวเคลียร์ของอิหร่าน ตลอดจนจัดการกับโครงการขีปนาวุธ” เขากล่าวพร้อมเสริมว่า สหรัฐฯ มีความสามารถในการทำให้มาตรการคว่ำบาตรมีผลบังคับใช้
เมื่อเดือนที่แล้ว จาวาด ซารีฟ รัฐมนตรีต่างประเทศของอิหร่านกล่าวว่าประเทศของเขาจะดำเนินการตามเงื่อนไขของข้อตกลงในยุคโอบามาในปี 2015 อย่างเต็มที่ หากไบเดนยกเลิกการคว่ำบาตรที่ออกมาในยุคของทรัมป์ โดยซารีฟอ้างว่า อิหร่านสามารถปฏิบัติได้ในทันที