MEMO – แอนโทนี บลิงเกน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ คนใหม่ กล่าวเมื่อ 19 ม.ค.ว่า รัฐบาลของปธน.โจ ไบเดน จะให้อิสราเอลและประเทศอ่าวร่วมในการเจรจานิวเคลียร์กับอิหร่านในอนาคต เตหะรานปฏิเสธเมื่อเดือนที่แล้วที่จะยอมรับการให้รัฐอาหรับร่วมในการเจรจาดังกล่าว
“รัฐบาลไบเดน มุ่งมั่นที่จะไม่ให้อิหร่านมีอาวุธนิวเคลียร์” บลิงเกนกล่าว “การครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ของอิหร่านจะทำให้เป็นอันตรายมากกว่าที่เป็นอยู่ในขณะนี้”
เขาเสริมว่า วอชิงตันเชื่อว่าอิหร่านกำลังดำเนินการหลายขั้นตอนเพื่อถอนตัวเองจากข้อจำกัดของข้อตกลงนิวเคลียร์ปี 2015 ที่เรียกว่าแผนปฏิบัติการร่วม (JCPOA) “อเมริกามีความรับผิดชอบเร่งด่วนที่จะป้องกันไม่ให้อิหร่านได้รับอาวุธนิวเคลียร์” เขายืนยัน
เห็นได้ชัดว่าการกลับไปที่ JCPOA นั้นถือเป็นประเด็นสำคัญสำหรับไบเดน เขาได้กล่าวว่า สหรัฐฯ ยินดีที่จะเข้าสู่การเจรจาอีกครั้ง โดยมีเงื่อนไขว่าอิหร่านจะกลับไปปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดก่อน
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ถอนตัวออกจากข้อตกลงในปี 2018 และกำหนดมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านเพิ่มเติมตามนโยบาย “กดดันสูงสุด” ต่อเตหะราน เมื่อเร็วๆ นี้รัฐบาลอิหร่านได้ให้คำมั่นว่าจะเพิ่มสมรรถภาพยูเรเนียมถึง 20 เปอร์เซ็นต์ที่โรงงานฟอร์ดอว์ใต้ดิน
อย่างไรก็ตาม อายะตุลเลาะห์ อะลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่านกล่าวเมื่อต้นเดือนนี้ว่า อิหร่านไม่รีบร้อนที่จะกลับไปเจรจากับสหรัฐฯ “การคว่ำบาตรเป็นการทรยศและก่ออาชญากรรมต่อชาติอิหร่าน และมันต้องถูกยกเลิก” เขากล่าว