ฟอร์ดเรียกคืนรถยนต์ 3 ล้านคันในสหรัฐฯ และแคนาดา พร้อมถุงลมนิรภัยที่ผลิตโดยบริษัทเดียวกัน ซึ่งอุปกรณ์ดังกล่าวเชื่อมโยงกับผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 18 รายในสหรัฐอเมริกา ซีเอ็นเอ็นรายงานเมื่อ 22 ม.ค.
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจาก เมื่อวันอังคาร (19 ม.ค.) ที่ผ่านมา สำนักงานบริหารความปลอดภัยการจราจรบนทางหลวงแห่งชาติสหรัฐฯ (NHTSA) ปฏิเสธข้อโต้แย้งของฟอร์ดที่ว่าไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนถุงลมนิรภัยรุ่นนี้
การเรียกคืนรถเข้าศูนย์เพื่อแกไขครั้งนี้ สาเหตุมาจากข้อบกพร่องในถุงลมนิรภัยที่ผลิตโดยบริษัททาคาตะ (Takata) ซึ่งเป็นผู้ผลิตในญี่ปุ่นที่ล้มละลายแล้วในขณะนี้ ถุงลมนิรภัยของทาคาตะรุ่นอื่นมีข้อบกพร่องในช่องเติมลม ซึ่งทำให้ถุงลมหลายใบระเบิดและพ่นเศษวัสดุออกมา นอกจากผู้เสียชีวิต 18 รายแล้ว ยังมีคนขับหรือผู้โดยสารมากกว่า 400 คนได้รับบาดเจ็บรวมถึงตาบอดหรือพิการด้วย
การเรียกคืนที่เชื่อมโยงกับถุงลมนิรภัยของทาคาตะ เริ่มขึ้นในปี 2014 และในที่สุดก็กลายเป็นการเรียกคืนรถยนต์ครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ ก่อนที่จะมีการประกาศในสัปดาห์นี้มีการเรียกคืนในส่วนของสหรัฐฯ แล้วถึงจำนวนถึง 67 ล้านถุงในรถยนต์มากกว่า 40 ล้านคัน
แม้ว่าถุงลมนิรภัยที่ผลิตโดยทาคาตะ ซึ่งฟอร์ดใช้จะเป็นรุ่นที่แตกต่างกัน แต่ก็คล้ายกันจากที่เกี่ยวข้องกับการเรียกคืนครั้งก่อน ซึ่งทำให้หน่วยงานกำกับดูแลด้านความปลอดภัยกล่าวว่ามันยังคงมีความเสี่ยง
ในเดือนพฤศจิกายน NHTSA ก็ปฏิเสธคำอุทธรณ์ที่คล้ายกันของเจเนอร์รัลมอเตอร์ (GM) บังคับให้บริษัทผลิตรถยนต์แห่งนี้ต้องเรียกคืนรถปิคอัพและเอสยูวี 7 ล้านคัน NHTSA ยังได้ปฏิเสธการอุทธรณ์จากมาสด้าด้วยเช่นกัน แต่ครอบคลุมรถปิคอัพในสหรัฐอเมริกาเพียง 5,800 คันที่สร้างขึ้นสำหรับผู้ผลิตรถยนต์
สำหรับรถฟอร์ดรุ่นที่รวมอยู่ในการเรียกคืนในสหรัฐฯ ได้แก่ Ford Ranger ปี 2007 ถึง 2011, Ford Fusion ปี 2006 ถึง 2012, ปี 2006 ถึง 2012 Lincoln Zephyr, Ford Edge ปี 2007 ถึง 2010 และปี 2007 ถึง 2010 Lincoln MKX รถยนต์ Mazda ที่ถูกเรียกคืนคือรถกระบะ B-Series ปี 2007 ถึง 2009