คณะรัฐมนตรีของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ได้อนุมัติการจัดตั้งสถานทูตในเทลอาวีฟแล้ว ขณะที่อิสราเอลก็ประกาศเปิดสถานทูตของตนในอาบูดาบี อัลจาซีรารายงาน
ไม่มีการให้รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับสถานทูตสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ประจำอิสราเอล รัฐบาลของอิสราเอลถือว่าเยรูซาเล็มเป็นเมืองหลวงแม้ว่าจะไม่ได้รับการยอมรับจากประชาคมนานาชาติส่วนใหญ่
ขณะเดียวกันแถลงการณ์จากกระทรวงต่างประเทศของอิสราเอลระบุว่า สถานทูตของอิสราเอลในอาบูดาบีก็ได้เปิดทำการอย่างเป็นทางการแล้วเมื่อวันอาทิตย์ พร้อมกับการไปถึงของทูตอิสราเอลที่นั่น แม้ว่าจะอยู่ในสถานที่ชั่วคราวจนกว่าจะพบสถานที่ถาวร
สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เห็นพ้องที่จะปรับความสัมพันธ์กับอิสราเอลให้เป็นปกติในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา สร้างความโกรธแค้นให้กับชาวปาเลสไตน์ที่เกรงว่าการเคลื่อนไหวดังกล่าวจะทำให้จุดยืนของกลุ่มประเทศอาหรับที่มีมายาวนานอ่อนแอลง โดยเรียกร้องให้อิสราเอลถอนตัวออกจากดินแดนที่ยึดครองอย่างผิดกฎหมายและยอมรับความเป็นรัฐของปาเลสไตน์เพื่อตอบแทนความสัมพันธ์ปกติกับประเทศอาหรับ
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา บาห์เรน ซูดาน และโมร็อกโก ต่างก็เดินตามรอยเท้าของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และตกลงที่จะสร้างความสัมพันธ์กับอิสราเอลโดยมีนายหน้าดำเนินการคืออดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา
ชาวปาเลสไตน์ประณามข้อตกลงดังกล่าวว่าเป็นการ“ แทงข้างหลัง”
ผู้นำปาเลสไตน์ต้องการให้เยรูซาเล็มตะวันออกเป็นเมืองหลวงของรัฐปาเลสไตน์ในอนาคต ประเทศส่วนใหญ่มีสถานทูตในเทลอาวีฟ
นับตั้งแต่สร้างความสัมพันธ์อย่างเป็นทางการในเดือนกันยายน อิสราเอลกับยูเออีได้เปิดเที่ยวบินตรง และแลกเปลี่ยนคณะผู้แทนการค้าจำนวนมาก ในขณะที่นักท่องเที่ยวชาวอิสราเอลหลายพันคนเดินทางไปเยือนสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
เร็ว ๆ นี้อิสราเอลจะเปิดสำนักงานดูแลผลประโยชน์ในโมร็อกโก และสถานกงสุลในดูไบ ส่วนสถานทูตในบาห์เรนได้ดำเนินการมาหลายสัปดาห์แล้ว