คิง เพาเวอร์ คว้ารางวัล CSR เป็นเลิศระดับเอเชีย 3 ปีซ้อน จาก ‘Asia Responsible Enterprise Awards 2021’ ด้านการสร้างความเข้มแข็งให้สังคม ตอกย้ำจุดยืนในการสนับสนุน ส่งเสริม และสร้างสังคมเข้มแข็งอย่างยั่งยืนด้วยพลังคนไทย
กรุงเทพฯ 13 กันยายน 2564 – กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ตอกย้ำความสำเร็จในการมุ่งมั่นตอบแทนสังคมไทย พร้อมสนับสนุนและส่งเสริมการพัฒนาสังคมอย่างยั่งยืนภายใต้โครงการเพื่อสังคม ‘คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย’ ล่าสุด! ได้รับรางวัลองค์กรดีเด่นด้านกิจกรรมเพื่อสังคมระดับเอเชียเป็นปีที่ 3 อย่างต่อเนื่อง จากงานประกาศรางวัล ‘Asia Responsible Enterprise Awards 2021’ หรือ AREA 2021 ด้าน Social Empowerment หรือ การสร้างความเข้มแข็งให้สังคม จัดขึ้นโดย Enterprise Asia องค์กรอิสระที่สนับสนุนการพัฒนาศักยภาพทางเศรษฐกิจ และสังคมแบบองค์รวมในเอเชีย และมุ่งส่งเสริมการพัฒนาความรับผิดชอบต่อสังคมขององค์กรต่างๆ ในภูมิภาค ซึ่งปีนี้จัดเป็นปีที่ 10 และมีผู้ที่ได้รับรางวัลเพียง 69 โครงการจากที่ส่งร่วมประกวดทั้งสิ้น 205 โครงการจาก 16 ประเทศทั่วเอเชีย โดยจัดงานประกาศรางวัลแบบออนไลน์เมื่อต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา ณ ประเทศ มาเลเซีย
นายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ กล่าวว่า “รางวัลดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงความตั้งใจ ความมุ่งมั่นและความร่วมมือกันของชุมชนและพันธมิตร โครงการ คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย โดยกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เป็นแกนหลักในการสร้างสรรค์โครงการดีๆ เพื่อสนับสนุนศักยภาพของคนไทย เน้นการเสริมสร้างความมั่นคงเข้มแข็งของรากฐานการพัฒนาสังคมที่ยั่งยืนอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และคุณภาพชีวิต ครอบคลุม 3 แกนหลัก คือ กีฬา, ดนตรี และชุมชน ซึ่งตลอด 4 ปีที่ผ่านมาสามารถกระจายโอกาส สร้างเศรษฐกิจหมุนเวียน และส่งความสุขสู่ชุมชนทั่วประเทศทั้ง 77 จังหวัด ทุกภูมิภาคกว่า 5,400 ชุมชนทั่วประเทศ”
นับตั้งแต่การก่อตั้งโครงการฯ เมื่อปีพ.ศ. 2560 คิง เพาเวอร์ ยังคงยืดหยัดในเจตนารมณ์ของ ‘การให้’ และการเชื่อใน ‘พลังคนไทย’ โดยยึดเป็นแนวทางหลักในการดำเนินงานที่มีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าการดำเนินธุรกิจ มีวัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์ที่ผนวกเรื่องกิจกรรมเพื่อสังคมไว้ในวาระการดำเนินงานขององค์กร ซึ่งในปีที่ผ่านมาคิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย ได้ขยายกรอบการดำเนินงานสู่วงกว้างขึ้น เพื่อให้เยาวชนและชุมชนในพื้นที่ห่างไกลมีโอกาสเข้าถึงกิจกรรมต่างๆ ได้มากขึ้น นับเป็นการต่อยอดความสำเร็จของโครงการต่างๆ อย่างเข้มข้น ไม่ว่าจะเป็นด้าน MUSIC POWER กับการปั้นเวทีประกวดดนตรีใหม่ THE POWER BAND การประกวดวงดนตรีสากลสมัยนิยมผสมเครื่องเป่า ที่เปิดโอกาสให้ผู้ที่มีใจรักดนตรีได้มีเวทีแสดงความสามารถนำไปสู่การเป็นวงดนตรีคุณภาพในอนาคต,การเน้นการเข้าถึงพื้นที่ที่ไกลกว่าเดิมเพื่อพัฒนาคน และชุมชนให้ตรงจุด ทั้งโครงการล้านลูก ล้านพลัง สร้างฝันเด็กไทย และโครงการ 100 สนามฟุตบอล สร้างพลังเยาวชนไทย ภายใต้ SPORT POWER ที่ส่งมอบลูกฟุตบอลกระจายทั่วประเทศแล้วกว่า 700,000 ลูก และสนามฟุตบอลหญ้าเทียมมาตรฐานสากล 61 แห่ง ในชุมชนกว่า 5,400 พื้นที่ เพื่อพัฒนาทักษะการเตะฟุตบอลของเยาวชน และคนไทยที่รักกีฬาฟุตบอลจนเกิดเป็นทีมโรงเรียน และได้เข้าแข่งในระดับอำเภอ พัฒนาสู่ระดับจังหวัดเป็นจำนวนหลายทีม
นอกจากนี้ ยังมีโครงการส่งเสริมสินค้าชุมชนไทยที่ชูความงดงามของงานฝีมือและมรดกทางภูมิปัญญาของชาวบ้านที่ส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่นภายใต้ COMMUNITY POWER โดยทีมคิง เพาเวอร์ ได้เข้าไปร่วมคิด ร่วมพัฒนา และต่อยอดสินค้าให้ตอบโจทย์ตลาดโลก เพื่อนำไปสู่การประชาสัมพันธ์ และเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้าชุมชนในระดับสากล โดยผลงานที่เป็นที่ประจักษ์มีทั้งคอลเลกชั่นของที่ระลึกประจำสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ ที่ไปจำหน่าย ณ เดอะ ซิตี้ แฟนสโตร์ แอท คิง เพาเวอร์ สเตเดียม เมืองเลสเตอร์ ประเทศอังกฤษ และสินค้าที่พัฒนาร่วมกับแบรนด์สตรีทแวร์ดังระดับโลกอย่าง atmos ที่จำหน่ายไปยัง 8 ประเทศทั่วโลก อาทิ ญี่ปุ่น, อเมริกา, เกาหลีใต้ และอังกฤษ เป็นต้น
สำหรับในปีนี้ มีผู้ผ่านเข้ารับคัดเลือกเพียง 69 โครงการ จาก 205 โครงการ ใน 16 ประเทศในภูมิภาคเอเชีย อาทิ ไต้หวัน, ฟิลิปปินส์, มาเลเซีย, อินเดีย, เวียดนาม, กัมพูชา, อินโดนีเซีย, สิงคโปร์ และไทย เป็นต้น โดยจะต้องผ่านเกณฑ์การคัดเลือกจากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากหลากหลายอุตสาหกรรม หลายประเทศ โดยหลักเกณฑ์การพิจารณา ประกอบด้วย วิธีการนำเสนอผลงาน, ผลลัพธ์ที่วัดได้เชิงคุณภาพ, ประสิทธิภาพของการรังสรรค์โครงการ, ความมุ่งมั่นตั้งใจ, ความสัมพันธ์กับชุมชน, การตอบโจทย์ความต้องการ, ความสามารถในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย, ความมีส่วนร่วม, ความมุ่งมั่นตั้งใจ และความสม่ำเสมอ เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีองค์กรชื่อดังระดับภูมิภาคได้รับรางวัลในสาขาอื่นๆ อาทิ Standard Chartered Bank (Taiwan) Limited, Bloomberry Resorts Corporation, Pacific SOGO Department Stores Co., Ltd., Heineken Malaysia Berhad, Accenture, Inc. เป็นต้น
“ผมเชื่อในพลังคนไทย และอยากเห็นเยาวชน ชุมชน และสังคมมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ได้รับโอกาสในการพัฒนาศักยภาพของตนเองมากที่สุด เพื่อนำไปสู่เป้าหมายของการเติบโตอย่างยั่งยืนทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และคุณภาพชีวิต ความสำเร็จนี้ จะเกิดขึ้นไม่ได้ หากขาดความร่วมมืออย่างดีจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐ พันธมิตรต่างๆ คณะผู้บริหาร พนักงานในองค์กร คู่ค้า ชุมชน และประชาชน ที่ล้วนแต่มีส่วนร่วมให้โครงการต่างๆ บรรลุความสำเร็จด้วยดีตามที่ตั้งเป้าไว้” นายอัยยวัฒน์กล่าวสรุป.