หนึ่งในโรคยอดฮิตที่พบได้บ่อยในกลุ่มผู้หญิงคงหนีไม่พ้นโรคมะเร็งปากมดลูกอย่างแน่นอน โดยเฉพาะบุคคลที่มีอายุระหว่าง 35-50 ปี ซึ่งเป็นโรคที่มักเกิดจากการมีเพศสัมพันธ์จากเชื้อไวรัสชนิดฮิวแมนแปปปิโลมาไวรัส (Human Papillomavirus) หรือเอชพีวี (HPV) จนทำให้เซลล์บริเวณปากมดลูกเกิดความผิดปกติและกลายเป็นเนื้อร้ายได้ โดยโรคนี้แบ่งออกเป็น 4 ระยะด้วยกัน ซึ่งอาการมะเร็งปากมดลูกเริ่มแรกอาจไม่แสดงอาการให้เห็นชัดมากนัก ดังนั้นการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกตั้งแต่เนิ่น ๆ เป็นเรื่องจำเป็นที่ไม่ควรมองข้ามเป็นอย่างมาก วันนี้เราเลยอยากขออาสามาแชร์ 3 อาการมะเร็งปากมดลูกที่พบได้บ่อยและเป็นสัญญาณเตือนภัยให้เหล่าบรรดาผู้หญิงระวังตัว และสามารถรักษาได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ
อาการมะเร็งปากมดลูก
- เลือดออกจากทางช่องคลอด
อาการที่พบได้บ่อยในกลุ่มคนทั่วไป คือ มีเลือดออกจากบริเวณช่องคลอดโดยไม่ทราบสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็น ช่วงหลังประจำเดือนหมด แต่ยังมีเลือดออกอย่างกะปริดกะปรอย รวมถึงการมีประจำเดือนมาก ซึ่งถือว่าเป็นภาวะที่มีความผิดปกติ นอกจากนี้หากใครที่มีเลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์ หรือมีอาการเจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์ก็ควรรีบไปปรึกษาแพทย์โดยด่วน เพื่อทำการตรวจเช็กให้เรียบร้อย
- ตกขาวผิดปกติ
ตกขาว มีลักษณะเป็นเมือกเหลว ไหลออกมาจากช่องคลอดของผู้หญิง ซึ่งโดยทั่วไปผู้หญิงมักมีอาการตกขาวได้ทุกวัน แต่จะมีมากในช่วงก่อนมีประจำเดือน และหลังมีประจำเดือน ซึ่งปกติแล้วตกขาวจะมีสีใสหรือสีขาว ไม่มีกลิ่น แต่เมื่อไหร่ที่ตกขาวของคุณเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเหลือง เขียว เทา หรือมีเลือดปน และส่งกลิ่นเหม็น ก็อาจเป็นสัญญาณเตือนของความผิดปกติได้ ซึ่งอาการนี้ถือเป็นหนึ่งในอาการมะเร็งปากมดลูกที่พบได้บ่อย ทั้งนี้ควรปรึกษาแพทย์เพื่อความมั่นใจ และการรักษาให้ตรงจุดมากขึ้น
- ปวดท้องน้อย เบื่ออาหาร
อาการปวดท้องน้อย และเบื่ออาหารถือเป็นอีกหนึ่งในอาการมะเร็งปากมดลูกที่พบได้มาก ซึ่งผู้ป่วยมักรู้สึกหน่วงท้อง หรือมีอาการปวดท้องน้อยแม้ไม่ใช่ช่วงใกล้มีประจำเดือน รวมถึงอาการปวดท้องมากขณะมีประจำเดือน นอกจากจากนี้อาจรู้สึกเบื่ออาหาร ไม่รู้สึกอยาก จนทำให้น้ำหนักลดลงอย่างเห็นได้ชัด
ทั้งหมดนี้ก็เป็น 3 อาการของโรคมะเร็งปากมดลูกที่พบได้บ่อย นอกจากนี้ยังมีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วยอาทิ อ่อนเพลีย ขาบวม ปวดหลัง ซึ่งหากคุณเริ่มมีอาการดังกล่าว ควรรีบปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยด่วน เพื่อหาสาเหตุที่ถูกต้อง และสามารถรักษาได้ทันเวลา
