ประวิตร วงษ์สุวรรณ ย้ำ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งบูรณาการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนและช่วยเหลือให้ตรงตามความต้องการของประชาชนในพื้นที่ จชต.

พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (คปต.) เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (คปต.) ครั้งที่ 3/2564 เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ณ ห้องประชุมวิจิตรวาทการ ชั้น 3 สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ทำเนียบรัฐบาล กรุงเทพมหานคร โดยมี พลเอก สุพจน์ มาลานิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ในฐานะเลขานุการ คปต. รศ.ดร.บดินทร์ รัศมีเทศ รองเลขาธิการ ศอ.บต. พร้อมด้วย นายศิริวิตญ์ ดอกแก้ว ผู้อำนวยการกลุ่มประสานงานคณะรัฐมนตรีและราชการส่วนกลาง นายนันทพงศ์ สุวรรณรัตน์ ผู้อำนวยการ กองส่งเสริมและสนับสนุนงานพัฒนาเพื่อความมั่นคง ศอ.บต. และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมผ่าน Video Conference System

ทั้งนี้ในที่ประชุมได้มีการรายงานสถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ การเพิ่มประสิทธิภาพ การแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ภายใต้ข้อสั่งการจากนายกรัฐมนตรี รวมถึงข้อสั่งการในการแต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ และความคืบหน้าการดำเนินงานตำบล มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ได้มีการดำเนินการผ่านกลไกของสภาสันติสุขตำบล และได้มีการพิจารณาให้ความเห็นชอบเรื่องสำคัญ ได้แก่ การจัดโครงสร้าง สำนักงานเลขานุการคณะกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (สล.คปต.) และ สล.คปต.ส่วนหน้า รวมถึงแต่งตั้งคณะอนุกรรมการรองรับการขับเคลื่อนงานภายใต้กลไก คปต. แนวทาง การจัดตั้งและขับเคลื่อนงานของศูนย์พัฒนาทักษะภาษาเพื่อการสื่อสารในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตลอดจน (ร่าง) แผนปฏิบัติการด้านการบริหารและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ. 2566 – 2570 ซึ่งเป็นเครื่องมือ บูรณาการการแปลงนโยบายการบริหารและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ไปสู่การปฏิบัติ เพื่อให้บรรลุผลสัมฤทธิ์ ตามเป้าหมายระยะที่ 2 ของกรอบยุทธศาสตร์ชาติ พ.ศ 2561 – 2580 รวมทั้งนโยบายและแผนหลักที่เกี่ยวข้อง

อย่างไรก็ตาม พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรษ เน้นย้ำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งบูรณาการแก้ไขปัญหาและช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่ รวมทั้งแก้ไขปัญหาความยากจนและพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก ผ่านกลไกสภาสันติสุขตำบล โดยให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมและตอบสนองความต้องการของประชาชนในพื้นที่อย่างแท้จริง เพื่อให้บรรลุผลดังเจตนารมณ์ตามเป้าหมาย อย่างเป็นรูปธรรมต่อไป