ศอ.บต. ดึงภาคเอกชน สถาบันการศึกษา และหน่วยงานภาครัฐจับมือผลักดัน จชต. ให้เป็นเมืองปศุสัตว์แบบครบวงจร

หลังนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ จันทร์โอชา ลงพื้นที่ จชต.เมื่อวันพุธที่ 15 ธันวาคม 2564 เพื่อติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาลในการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมร่วมประชุมกับ ศอ.บต. เพื่อนำร่องดำเนินโครงการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้เป็นเมืองปศุสัตว์ เป็นส่วนหนึ่งของระเบียงเศรษฐกิจฮาลาล โดยส่งเสริมการเลี้ยงโคเนื้อเป็นโครงการนำร่องโดยดำเนินการในลักษณะโครงการขยายผลโดยนำความสำเร็จ ต่อมา เลขาธิการ ศอ.บต. พลเรือตรีสมเกียรติ ผลประยูร ได้ลงพื้นที่ศึกษาดูงานการเลี้ยงโค ณ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขต หาดใหญ่ เพื่อศึกษาเรื่องของการเลี้ยงโคให้เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ ตลอดจน วันนี้ 16 มกราคม 2565 เลขาธิการศอ.บต. ลงพื้นที่ฟาร์มโคเนื้อตัวอย่างของบริษัท ไอบีซี อินดัสเตรียล จำกัด (IBCI) ตำบลทุ่งปรัง อำเภอสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อศึกษาเรียนรู้ต้นแบบการผลิตโคเนื้อคุณภาพ และการบริหารจัดการและการตลาด เพื่อนำความรู้ที่ได้รับ ไปส่งเสริมให้เกษตรกรในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ หันมาเลี้ยงดูโคเนื้อแบบครบวงจร โดยครั้งนี้มีนายชนธัญ แสงพุ่ม รองเลขาธิการ ศอ.บต. นายมะเสาวดี ไสสากา หัวหน้าสำนักงานสภาเกษตรกรจังหวัดยะลา ตลอดจนผู้แทนจากภาคการเกษตรในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ วิสาหกิจชุมชนในพื้นที่จังหวัดยะลา และผู้แทนจากกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ลงพื้นที่ในครั้งนี้ด้วย

สำหรับการลงพื้นที่ศึกษาดูงานในครั้งนี้ เพื่อเป็นการเสริมความรู้ ความเข้าใจถึงการเลี้ยงโคเนื้ออย่างถูกวิธีและครบวงจร โดยทาง ศอ.บต. ร่วมกับสำนักงานสภาเกษตรกรจังหวัดยะลา สถาบันอุดมศึกษาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เร่งผลักดันให้เกษตรกรในพื้นที่เลี้ยงโคเนื้อ พร้อมเสริมความรู้ถึงวิธีการเลี้ยงโคเนื้อแบบครบวงจรแก่เกษตรกรโดยสามารถนำไปปฏิบัติได้จริง นอกจากนี้ยังได้สนับสนุนและผลักดันให้มีการลงทุนในการทำฟาร์มเลี้ยงโคเนื้อในพื้นที่ เพื่อให้มีการเชื่อมโยงห่วงโซ่ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการปลูกพืชไว้เป็นอาหารสัตว์ การผลิตพ่อพันธุ์ แม่พันธุ์โคเนื้อ ให้มีความเหมาะสมกับพื้นที่ รวมถึงการเชื่อมโยงภาคการตลาด โดยให้พื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้เป็นเมืองปศุสัตว์แบบครบวงจร

ในการนี้ เลขาธิการ ศอ.บต. ได้กล่าวว่า จะผลักดันให้พื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้เป็นเมืองปศุสัตว์โดยมีกรอบแนวคิดในการส่งเสริมขยายการเลี้ยงโค โดยเฉพาะโคเนื้อให้มากขึ้น เพื่อให้เกิดการสร้างงาน สร้างอาชีพ และสร้างรายได้แก่ประชาชน โดยโคที่เลี้ยงไว้ คือโคเนื้อในเชิงพาณิชย์ที่มีขนาด น้ำหนัก และมีความต้านทานที่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ และเป็นโคท้องถิ่นไว้สำหรับบริโภคตามวิธีชีวิตของพี่น้องประชาชน โดยกรอบแนวคิดต่าง ๆ นั้น เพื่อจะพัฒนาให้ครบวงจรตั้งแต่ต้นน้ำ หรือโคต้นน้ำ โดยพัฒนาพ่อพันธุ์ แม่พันธุ์ ให้สมบูรณ์ และการผลิตลูกโค กลางน้ำ คือการเลี้ยงโคแบบถูกวิธี โดยจะเริ่มตั้งแต่วันแรกคลอด จนไปถึง 1 ปีครึ่ง

และปลายน้ำ คือการขุนโคและคุณภาพเนื้อให้ได้มาตรฐาน โดยใช้ระยะเวลาประมาณ 3 – 4 เดือน ซึ่งกระบวนการดังกล่าว จะเป็นการประเมินจากทุกภาคส่วน โดยเฉพาะในช่วงของการพัฒนา พ่อพันธุ์ แม่พันธุ์ โดยจะร่วมมือกับสถาบันอุดมศึกษา เช่น มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ จะเข้ามาร่วมมือในการพัฒนาโคเนื้อในครั้งนี้ และภาคเอกชนจะส่งเสริมการลงทุนการผลิตแบบครบวงจร ซึ่งเมื่อมีการพัฒนาทุกอย่างเป็นระบบแล้ว จะสามารถสร้างรายได้แก่เกษตรกรในพื้นที่ได้เป็นอย่างดี นอกจากนั้นยังมีการส่งเสริมการปลูกพืชไว้เป็นอาหารสัตว์ในพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นการปลูกหญ้าเนเปียร์ ข้าวโพด มันสําปะหลัง ต้นกระทิน ต่าง ๆ ซึ่งเป็นพืชไว้สำหรับการให้อาหารสัตว์ และยังสามารถนำไปจำหน่ายตามตลาดทั่วไปได้อีกด้วย

นอกจากนี้ เลขาธิการ ศอ.บต. ยังได้ชื่นชมฟาร์มโคเนื้อแห่งนี้ ได้ดำเนินการเป็นอย่างดีและประสบความสำเร็จในการเลี้ยงโค คือ 1. มีผลผลิตที่มีคุณภาพ ผลงานที่ได้รับการยอมรับจากลูกค้า 2. มีผลตอบแทนที่สม่ำเสมอ สร้างรายได้ที่มั่นคง และ 3. มีการปรับปรุงพัฒนากิจการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพฟาร์มโดยมีการขยายกิจการและขนาดฟาร์มอย่างต่อเนื่อง และมีการจัดแบ่งพื้นที่อย่างเป็นสัดส่วนได้เป็นอย่างดี โดยเลขาธิการ ศอ.บต. และคณะฯ ยังได้ชมสาธิตการผสมอาหารและการหมักอาหารจากฟาร์ม การฉีดยาถ่ายพยาธิประจำปี และการเสริมอาหารบำรุงแก่ลูกวัว อีกด้วย

ทั้งนี้ ฟาร์มโคเนื้อตัวอย่างของบริษัท ไอบีซี อินดัสเตรียล จำกัด (IBCI) ได้เริ่มมีการเลี้ยงโคเนื้อเมื่อต้นเดือน ธันวาคม 2563 ที่ผ่านมา จนถึงวันนี้ฟาร์มแห่งนี้สามารถผลิตโคเนื้อได้ทั้งหมดจำนวน 210 ตัว