Mee – รัสเซียประณามการยึดครองที่ราบสูงโกลันของอิสราเอลในวันพุธ หลังจากที่อิสราเอลแสดงท่าทีสนับสนุนยูเครน
เมื่อวันพุธ (23 ก.พ.) ดมิทรี โปลียานสกี ทูตแห่งสหประชาชาติของรัสเซียกล่าวในการบรรยายสรุปของคณะมนตรีความมั่นคงว่า มอสโก “กังวลเกี่ยวกับแผนการที่เทลอาวีฟประกาศไว้เกี่ยวกับการขยายกิจกรรมการตั้งถิ่นฐานในที่ราบสูงโกลันที่ถูกยึดครอง ซึ่งขัดต่อบทบัญญัติของอนุสัญญาเจนีวาปี 1949” โดยตรง
“จุดยืนที่ไม่เปลี่ยนแปลงของรัสเซีย คือเราไม่ยอมรับอำนาจอธิปไตยของอิสราเอลเหนือที่ราบสูงโกลัน ซึ่งเป็นดินแดนที่แบ่งแยกไม่ได้ของซีเรีย”
#Polyanskiy: We're concerned over Tel Aviv’s announced plans for expanding settlement activity in the occupied #GolanHeights, which contradicts the provisions of the 1949 Geneva Convention. Russia doesn't recognize Israel's sovereignty over Golan Heights that are part of #Syria. pic.twitter.com/slHQSefJp5
— Russian Mission UN (@RussiaUN) February 23, 2022
ที่ราบสูงโกลันได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการว่าเป็นส่วนหนึ่งของซีเรียเมื่อประเทศได้รับเอกราชในปี 1944 – ปี ก่อนที่อิสราเอลจะถูกสร้างขึ้น
ที่ราบสูงเชิงยุทธศาสตร์ตั้งอยู่คร่อมอิสราเอลและซีเรีย และมองเห็นทางตอนใต้ของเลบานอน ภูมิภาคที่ร่ำรวยทรัพยากรแห่งนี้ถูกอิสราเอลยึดครองระหว่างสงครามปี 1967
ความคิดเห็นของโปลียานสกีเกิดขึ้นไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิเมียร์ ปูติน จะเริ่มการโจมตีครั้งใหญ่ทั่วยูเครนในวันพฤหัสบดี (24 ก.พ.)
ก่อนหน้านี้ในวันพุธ (14 ก.พ.) กระทรวงการต่างประเทศของอิสราเอลได้ออกแถลงการณ์ครั้งแรกเกี่ยวกับวิกฤตดังกล่าว โดยจงใจละเว้นจากการกล่าวถึงรัสเซียหรือปูติน แต่ระบุถึงการสนับสนุนเพื่อบูรณภาพแห่งดินแดนและอธิปไตยของยูเครน
“อิสราเอลมีความกังวลร่วมกับประชาคมระหว่างประเทศเกี่ยวกับขั้นตอนการดำเนินการในยูเครนตะวันออกและสถานการณ์ที่ทวีความรุนแรงขึ้น” คำแถลงของอิสราเอลระบุ
ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนอาจทำให้อิสราเอลตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก เนื่องจากประเทศนี้เป็นพันธมิตรที่ใกล้ชิดของสหรัฐฯ ในขณะที่ยังมีความสัมพันธ์ที่ดีกับทั้งมอสโกและเคียฟ
ในปี 2019 อิสราเอลและยูเครนได้ลงนามในข้อตกลงการค้าที่สำคัญ และในเดือนธันวาคม 2021 รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของยูเครนได้ไปเยือนอิสราเอล
ความขัดแย้งทางอาวุธอาจส่งผลกระทบต่อการเมืองภายในประเทศของอิสราเอล โดยประเทศนี้เป็นที่อาศัยของชาวต่างชาติที่เป็นชาวยูเครนกว่า 500,000 คน และผู้อพยพชาวรัสเซียอีกกว่า 400,000 คน