นักแม่นปืนหรือสไนเปอร์ที่น่าสะพรึงกลัวที่สุดคนหนึ่งของโลกชาวแคนาดา อดีตทหารผ่านศึกอิรักและอัฟกานิสถาน เตรียมเข้าร่วมการต่อสู้ในยูเครน ตอบรับคำเรียกร้องของประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี้ ที่ขอให้อาสาสมัครต่างชาติช่วยปราบผู้บุกรุกชาวรัสเซีย
นักแม่นปืนรายนี้รู้จักกันแค่ในชื่อเล่นว่า ‘วาลี’ (Wali) วัย 40 ปี เขาเคยรับใช้ชาติในกรมทหารราบที่ 22 ของแคนาดา (Royal Canadian 22nd) และมีประสบการณ์การต่อสู้มาก่อนจากในประเทศอิรักและอัฟกานิสถาน รวมทั้งเข้าร่วมกับนักสู้ชาวเคิร์ดเมื่อหลายปีก่อนเพื่อต่อสู้กับไอซิส
ทหารคนหนึ่งจากหน่วยนี้ของแคนาดามีชื่อเสียงว่าเคยยิงผู้ก่อการร้ายไอซิสเสียชีวิตจากระยะที่ไกลเหลือเชื่อเกือบ 3.5 กิโลเมตร เมื่อปี 2017
โดยมีรายงานอย่างกว้างขวางว่าสมาชิกของกรมทหารราบที่ 22 แคนาดาใช้ปืนไรเฟิล McMillan Tac-50 ยิงผู้ก่อการร้ายรัฐอิสลาม (ไอซิส) เสียชีวิตในปี 2017 จากระยะที่ไกล 3,450 เมตร ซึ่งเป็น ‘สถิติโลก’ สำหรับการยิงจากระยะไกลที่สุดเท่าที่เคยมีมา
‘วาลี’ ซึ่งทิ้งภรรยาและลูกชายวัย 1 ขวบไว้ข้างหลัง ได้รับการติดต่อจากเพื่อนคนหนึ่งที่ช่วยจัด ‘ขบวนรถส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม’ เข้าไปในเขตดอนบัสที่ถูกยึดครองทางตะวันออกเฉียงใต้ของยูเครน
เขาอธิบายช่วงเวลาที่เขารับสายเพื่อเข้าร่วมกองกำลังอาสาสมัครของยูเครนว่า ‘เหมือนนักดับเพลิงที่ได้ยินเสียงสัญญาณเตือนภัย’
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ‘วาลี’ ยังคงทำงานเป็นโปรแกรมเมอร์คอมพิวเตอร์ในแคนาดา
ตอนนี้ เขากำลังเตรียมที่จะสู้รบกับกองทหารรัสเซียจากพื้นที่ห่างไกลในยูเครน ซึ่งอยู่ห่างออกไปกว่า 4,800 ไมล์
‘เมื่อสัปดาห์ที่แล้วผมยังเขียนโปรแกรมอยู่ ตอนนี้ผมกำลังหยิบขีปนาวุธต่อต้านรถถังในโกดังออกมาเพื่อฆ่าผู้คน… นั่นคือความจริงของผมในตอนนี้” เขากล่าว
รัฐมนตรีต่างประเทศยูเครน นายดิมิโทร คูเลบา กล่าวเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ผู้คนมากกว่า 20,000 คนจาก 52 ประเทศได้อาสาที่จะขับไล่ผู้บุกรุกชาวรัสเซียในยูเครน
มือสไนเปอร์ชาวแคนาดาพูดกับซีบีเอสนิวส์ว่า: ‘ผมรู้ว่ามันแย่มาก แต่ในหัวของผม เมื่อผมเห็นภาพการทำลายล้างในยูเครน ก็เสมือนผมเห็นลูกชายของผมเองตกอยู่ในอันตราย และคนอื่นๆ ที่กำลังทุกข์ทรมาน’
ภรรยาของเขา ซึ่งไม่เปิดเผยตัวตนด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย กล่าวว่า เธอยอมให้เขาออกไปอย่างไม่เต็มใจ และการกักตัวเขาไว้ที่บ้านจะ “เหมือนกับการนำเขาเข้าคุก”
ประชาชนในท้องถิ่นได้พบกับ ‘วาลี’ ด้วยการกอดและจับมือ หลังจากเขาเดินทางมาถึงยูเครนพร้อมกับอดีตทหารแคนาดาสามคนเมื่อวันศุกร์ที่ 4 มีนาคม
และเมื่อเขาเดินลึกเข้าไปในใจกลางของยูเครน และได้เห็นการทำลายล้างโดยผู้บุกรุกชาวรัสเซียและการโจมตีด้วยปืนใหญ่ ‘วาลี’ กล่าวว่าเขารู้สึกว่าจำเป็นต้องลงมือ
เขาบอกกับซีบีเอสนิวส์ว่า “ผมต้องการช่วยพวกเขา ง่ายๆแค่นั้นแหละ”
“ฉันต้องช่วยเพราะมีคนที่นี่ถูกทิ้งระเบิดเพียงเพราะพวกเขาต้องการเป็นชาวยุโรปไม่ใช่ชาวรัสเซีย”
ขณะนี้กลุ่มทหารผ่านศึกอาสาสมัครเหล่านี้อยู่ในบ้านร้างแห่งหนึ่ง และมีแผนจะร่วมมือกับกองกำลังป้องกันประเทศยูเครนในเร็วๆ นี้
ยูเครนมีแผนที่จะจัดหน่วยสำรองซึ่งมีเจ้าหน้าที่ฝึกหัดประมาณ 10,000 นาย และอาสาสมัครอีกกว่า 120,000 นาย เพื่อขับไล่ผู้บุกรุกชาวรัสเซีย
อ้างอิง: เดลิเมล์ , นิวยอร์กโพสต์ , ซีบีเอสนิวส์
