สำนักข่าวฟาร์ส (FNA) ของอิหร่านรายงานเมื่อวันที่ 23 พ.ย. ที่ผ่านมาว่า รัฐมนตรีช่วยกระทรวงน้ำมันเพื่อกิจการระหว่างประเทศและการค้าของอิหร่านกล่าวว่า ประเทศไทยประกาศพร้อมจะซื้อน้ำมันดิบจากอิหร่าน หลังการยกเลิกแซงชั่น ทั้งกล่าวด้วยว่า จะมีการจัดตั้งคณะกรรมการเศรษฐกิจร่วมกันระหว่างทั้งสองประเทศในต้นปี 2016
หลังการประชุมกับ “นายสุวิทย์ เมษินทรีย์” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ของไทยในในกรุงเตหะราน อะมีร ฮุสเซน ซามานิเนีย (Amir Hossein Zamaninia) บอกกับสำนักข่าว SHANA ว่า ทางการไทยประกาศความพร้อมที่จะซื้อสินค้าน้ำมันจากอิหร่าน หลังพ้นมาตรการคว่ำบาตรทางการค้า
“การเติบโตของไทยทำให้ต้องการพลังงานจึงนำมาสู่การจัดหาน้ำมันดิบจากอิหร่าน” ทางการอิหร่านกล่าว
“ประเทศไทยสามารถเป็นประตูของอิหร่านสู่ประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน)” เขากล่าวเพิ่มเติมในระหว่างการประชุมร่วมระหว่างสองประเทศ
ในการประชุมระหว่าง นายสุวิทย์ กับ นายซามานิเนีย มีผู้บริหารระดับสูงของบริษัทพลังงานไทยจำนวนหนึ่งเขาร่วมด้วย
นอกจากนี้ สำนักข่าวฟาร์สภาคภาษาเปอร์เซีย ยังรายงานด้วยว่า การเดินทางเยือนอิหร่านในครั้งนี้ของ “นายสุวิทย์ เมษินทรีย์” รมช.พาณิชย์ของไทย เป็นการปูทางก่อนที่รองนายกฯ ด้านเศรษฐกิจของไทยและคณะผู้แทนการค้าจะเยือนอิหร่านอีกครั้งเร็วๆ นี้
อนึ่ง มีข่าวก่อนหน้านี้ว่า นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี จะยกคณะเดินทางเยือนประเทศอิหร่านอย่างเป็นทางการ เพื่อกระชับความสัมพันธ์ทางการค้าและการลงทุน หลังจากที่นานาชาติยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรทางการค้ากับอิหร่านแล้ว
ประชาชาติธุรกิจรายงานว่า นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ จะนำคณะเดินทางเยือนในช่วง 31 ม.ค.-3 ก.พ. 2559 เนื่องจากตลาดอิหร่านเป็นตลาดที่มีลู่ทางที่น่าสนใจ เพราะรัฐบาลมีแผนการลงทุนโครงการ Project Book ซึ่งเป็นการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานทั้งสนามบิน ถนน รถไฟฟ้า ท่าเรือ ในระยะ 10 ปี ทั้งนี้ ในช่วง 9 เดือนแรก (ม.ค.-ก.ย.) 2557 ไทยส่งออกไปอิหร่าน 90.63 ล้านเหรียญสหรัฐ และนำเข้า 167.9 ล้านเหรียญสหรัฐ
