ศาลของอิหร่านจะจัดการอย่างเข้มงวดกับทุกคนที่ก่อให้เกิดการจลาจลหรือก่ออาชญากรรมในระหว่างการประท้วงต่อต้านรัฐบาล ตุลาการอิหร่านกล่าวเมื่อวันอังคาร (8 พ.ย.) เป็นการส่งสัญญาณว่าทางการตั้งใจที่จะลงโทษอย่างเด็ดขาดต่อผู้ประท้วงที่ถูกตัดสินว่ามีความผิด รอยเตอร์รายงาน
หนึ่งในความท้าทายที่ใหญ่ที่สุดสำหรับรัฐศาสนาของอิหร่านนับตั้งแต่การปฏิวัติอิสลามในปี 2522 ก็คือการประท้วงรอบนี้ซึ่งดำเนินมาเป็นเวลาแปดสัปดาห์แล้ว แม้จะมีมาตรการด้านความมั่นคงที่เข้มงวดและคำเตือนที่เด็ดขาดจากกองกำลังความมั่นคง
เฉพาะจังหวัดเตหะรานเพียงแห่งเดียวมีผู้ถูกฟ้องร้องแล้วมากกว่า 1,000 คน ซึ่งเกี่ยวข้องกับสิ่งที่รัฐบาลเรียกว่า “การจลาจล” รอยเตอร์ระบุ
“ตอนนี้ สาธารณชน แม้แต่ผู้ประท้วงที่ไม่สนับสนุนการจลาจล ต่างก็เรียกร้องจากสถาบันตุลาการและความมั่นคงให้จัดการกับคนเพียงไม่กี่คนที่ก่อความวุ่นวายในลักษณะที่ก่อให้เกิดความไม่สงบ” มาซูด เซตาเยชิ โฆษกตุลาการกล่าว
การประท้วงต่อต้านรัฐบาลปะทุขึ้นในเดือนกันยายน หลังการเสียชีวิตของหญิงชาวเคิร์ด “มาห์ซา อามินี” ซึ่งถูกตำรวจควบคุมตัวกักขังไว้ เนื่องจากถูกกล่าวหาว่าละเมิดการแต่งกายที่บังคับใช้กับสตรี (ฮิญาบ) ของสาธารณรัฐอิสลาม
สำนักข่าว HRANA ของนักเคลื่อนไหวกล่าวว่า ผู้ประท้วง 321 คนถูกสังหารในเหตุการณ์ความไม่สงบ ซึ่งรวมถึงผู้เยาว์ 50 คน โดยกองกำลังความมั่นคง 38 นายถูกสังหารเช่นกัน รายงานนี้ระบุ
สื่อของรัฐกล่าวเมื่อเดือนที่แล้วว่า กองกำลังรักษาความมั่นคงมากกว่า 46 นาย รวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ผู้นำอิหร่านกล่าวหาศัตรู รวมทั้งสหรัฐฯ ว่าปลุกระดมให้เกิดความไม่สงบ ขณะที่ฝ่ายนิติบัญญัติสายรุนแรงของอิหร่านได้เรียกร้องให้ศาลยุติธรรม “จัดการอย่างเด็ดขาด” กับผู้กระทำความผิด