พช.สุพรรณบุรี น้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เดินหน้าสื่อสารสังคมสร้างการรับรู้ ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง โคก หนอง นา โมเดล

พช.สุพรรณบุรี น้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เดินหน้าสื่อสารสังคมสร้างการรับรู้ ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง โคก หนอง นา โมเดล บ้านรางยาว อำเภออู่ทอง มุ่งพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนอย่างยั่งยืน

วันเสาร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 14.00 น. นายณัฐภัทร สุวรรณประทีป ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี มอบหมายให้ นายวัชรเดช เกียรติชานน รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี พร้อมด้วย นางสาวสิริกร นิลกำแหง พัฒนาการจังหวัดสุพรรณบุรี ลงพื้นที่ โคก หนอง นา โมเดล เพื่อสื่อสารสังคมสร้างการรับรู้ ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ในรายการ MMM Magazine ช่อง5 โดยมี นายกองตรีโกวิทย์ อุบลรัตน์ นายอำเภออู่ทอง นางทองคำ เพ็ชรปานกัน พัฒนาการอำเภออู่ทอง นายสมัย วิชัยวงษ์ พร้อมด้วย กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน ภาคีเครือข่ายและเจ้าหน้าที่กรมการพัฒนาชุมชน เข้าร่วมฯ ณ ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง โคก หนอง นา โมเดล บ้านรางยาว หมู่ที่ 9 ตำบลสระยายโสม อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี

โอกาสนี้ นายวัชรเดช เกียรติชานน รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี พร้อมด้วยพัฒนาการจังหวัด นายอำเภอ พัฒนาการอำเภอและ ผู้นำชุมชน เจ้าหน้าที่ ร่วมกันเยี่ยมชมศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง โคก หนอง นา โมเดล ขนาด 1 ไร่ ซึ่งในพื้นที่แปลงดังกล่าวได้มีการปลูกพืชผัก แปลงสมุนไพร แปรรูปชาตะไคร้ แปรรูปกล้วยฉาบและผลไม้หลากหลายชนิด อีกทั้งได้จัดสรรพื้นที่เป็นบ่อเลี้ยงปลา เป็นการจัดการพื้นที่อย่างเหมาะสม เน้นการผสมผสานเกษตรทฤษฎีใหม่ให้เข้ากับภูมิปัญญาพื้นถิ่นที่สอดคล้องกับธรรมชาติในบริบทพื้นที่นั้นๆ

นายกองตรีโกวิทย์ อุบลรัตน์ นายอำเภออู่ทอง กล่าวว่า นับเป็นโอกาสอันดียิ่งที่ทาง ท่านรองผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี ให้ความสำคัญลงพื้นที่ติดตามการขับเคลื่อน โครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา โมเดล” ที่ได้น้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและทฤษฎีใหม่ ที่ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระราชทานไว้มาเป็นแนวทาง แล้วพี่น้องชาวไทยก็โชคดีอย่างยิ่ง ที่พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระปฐมบรมราชโองการว่าจะทรงสืบสาน รักษา และต่อยอดพระราชดำริในรัชกาลที่ 9 โดยโครงการดังกล่าวจะช่วยให้พี่น้องประชาชนสร้างรายได้ให้กับชุมชน ซึ่งเป็นฟื้นฟูเศรษฐกิจและชุมชน ผ่านการสร้างงานสร้างรายได้ให้คนหลายกลุ่ม ทั้งเกษตรกรในท้องถิ่น บัณฑิตจบใหม่ ถือเป็นหลักประกันในการสร้างเศรษฐกิจฐานรากของประเทศให้มั่นคงอย่างยั่งยืน

ด้าน นางสาวสิริกร นิลกำแหง พัฒนาการจังหวัดสุพรรณบุรี กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงมหาดไทยโดยกรมการพัฒนาชุมชน ภายใต้การนำของ ท่านอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ที่น้อมนำแนวทางการพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนในพื้นที่ชนบท ตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงและแนวคิดทฤษฎีใหม่ เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่เกิดความสุข สามารถพัฒนากระบวนการทำงานจากหน่วยเล็กระดับครัวเรือนไปสู่การบริหารจัดการชุมชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้นสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดสุพรรณบุรีร่วมกับภาคีเครือข่ายต่างๆในพื้นที่ มีความมุ่งมั่นที่เดินหน้าขับเคลื่อนติดตามโครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา โมเดล” อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งโครงการดังกล่าว ยังเกี่ยวพันกับเรื่องความมั่นคงทางอาหารอย่างใกล้ชิดอย่างเห็นได้ชัด เช่น การปลูกพืชผักสวนครัวปลอดสารพิษ หรือการปลูกไม้ต่างๆ ที่สามารถเก็บพืชผลกินได้ตลอดทั้งปี ซึ่งเป็นการน้อมนำแนวพระราชดำริ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่พระราชทานโครงการ “บ้านนี้มีรัก ปลูกผักกินเอง” และโครงการ “ทางนี้มีผล ผู้คนรักกัน” แก่พี่น้องประชาชนคนไทยทุกคน โดยมาขยายผลต่อยอดใน “โคก หนอง นา โมเดล” ได้อย่างเหมาะสมสอดคล้องลงตัว อีกด้วย

ทั้งนี้ สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดสุพรรณบุรี ขอเชิญชวนประชาชนคนไทยทุกท่านร่วมน้อมนำน้อมนำแนวพระราชดำริ “กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ” ด้วยการสร้างความมั่นคงทางอาหารปลูกพืชผักสวนครัวปลอดสารพิษ หรือการปลูกไม้ต่างๆ ตามบริบทของพื้นที่ และขอขอบคุณผู้นำชุมชนในพื้นที่ พร้อมทั้งภาคสื่อมวลชน ภาคเอกชนและภาคีเครือข่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ที่เข้ามาจับมือส่งเสริมสนับสนุนร่วมกันสร้างการรับรู้ ให้ตระหนักถึงความสำคัญในการดำเนินชีวิตตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตครัวเรือนและพื้นที่ชุมชน และต่อยอดไปสู่สร้างความมั่งคั่งให้กับเศรษฐกิจฐานรากของประเทศอย่างยั่งยืน