อาหรับนิวส์ – เมื่อวันจันทร์ 20 มี.ค. 66 รัฐบาลเยเมนและกลุ่มเฮาซีได้ข้อตกลงที่จะปล่อยตัวนักโทษ 887 คน หลังจากการเจรจาเป็นเวลา 10 วันในกรุงเจนีวา สหประชาชาติและคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศระบุ
พวกเขาเสริมว่า ทั้งสองฝ่ายยังได้ตกลงที่จะเยี่ยมชมสถานที่กักกันของกันและกัน ให้คณะผู้แทนเข้าถึงผู้ถูกคุมขังทั้งหมดได้อย่างเต็มที่ในระหว่างการเยือนเหล่านั้น และนัดพบกันอีกครั้งในเดือนพฤษภาคมเพื่อหารือเกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนผู้ต้องขังเพิ่มเติม
ฮานส์ กรุนด์เบิร์ก ผู้แทนพิเศษของสหประชาชาติประจำเยเมน อธิบายว่า ข้อตกลงดังกล่าวเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เชื่อได้ว่าสิ่งต่างๆ กำลังดำเนินไป “ในทิศทางที่ถูกต้อง” สู่การแก้ปัญหาความขัดแย้งที่ทำลายประเทศนี้มานานกว่า 8 ปีและก่อให้เกิดวิกฤติมนุษยธรรมครั้งใหญ่
“สำหรับครอบครัวชาวเยเมนหลายร้อยครอบครัว วันนี้เป็นวันที่ดี” กรุนด์เบิร์กกล่าว “ผมขอแสดงความยินดีกับทุกคนที่เกี่ยวข้องกับความสำเร็จนี้ ทุกวันนี้ ครอบครัวชาวเยเมนหลายร้อยครอบครัวตั้งตารอที่จะได้พบหน้าครอบครัวที่พวกเขารักอีกครั้ง”
“แต่สิ่งสำคัญคือต้องจำไว้ว่าเมื่อต่างฝ่ายต่างให้คำมั่นสัญญาในข้อตกลงแลกเปลี่ยนผู้ถูกคุมขัง พวกเขาได้ให้คำมั่นสัญญา ไม่ใช่แค่ต่อกันและกัน แต่กับครอบครัวชาวเยเมนหลายพันครอบครัวที่ใช้ชีวิตด้วยความเจ็บปวดจากการพลัดพรากจากคนที่รักที่สุดสำหรับพวกเขา นานเกินไป” กรุนด์เบิร์กกล่าว
กรุนด์เบิร์กอ้างถึงการประกาศฟื้นฟูความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างซาอุดีอาระเบียและอิหร่านอีกครั้งเมื่อวันที่ 10 มีนาคมของการ โดยกล่าวเสริมว่าเขาสัมผัสได้ว่าขณะนี้มี “ความเต็มใจที่จะมีส่วนร่วมในทิศทางเชิงบวกในการพยายามยุติความขัดแย้งในเยเมน”
ตามข้อความที่โพสต์บนทวิตเตอร์โดย นายอับดุล กาเดร์ อัลมุรตาฎอ หัวหน้าคณะกรรมการกิจการนักโทษของกลุ่มเฮาซี และ โมฮัมเหม็ด อับดุลสลาม หัวหน้าคณะเจรจาของเฮาซี พวกเขาได้ตกลงที่จะปล่อยตัวผู้ต้องขัง 181 คน ซึ่งรวมถึงชาวซาอุดีอาระเบีย 15 คน และชาวซูดาน 3 คน เพื่อแลกกับนักโทษ 706 คนที่รัฐบาลเยเมนจับตัวไว้ การแลกเปลี่ยนจะเกิดขึ้นในอีกสามสัปดาห์ พวกเขากล่าวเสริม
