เพรสทีวี – เจ้าหน้าที่อาวุโสของรัสเซียกล่าวว่า มอสโกเป็นเจ้าของอาวุธที่สามารถทำลายล้างศัตรูใดๆ ก็ได้ รวมทั้งสหรัฐฯ หากเผชิญภัยคุกคาม โดยกล่าวว่าวอชิงตันประเมินอานุภาพนิวเคลียร์ของรัสเซียต่ำเกินไป
ในการให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ Rossiiskaya Gazeta ของรัสเซียที่เผยแพร่เมื่อวันจันทร์ (27 มี.ค.66) “นายนิโคไล ปาตรูเชฟ” เลขาธิการคณะมนตรีความมั่นคงแห่งรัสเซีย ได้กล่าวคำเตือนดังกล่าว ซึ่งเป็นคำเตือนล่าสุดจากเจ้าหน้าที่อาวุโสของรัสเซียในการปลุกผีการเผชิญหน้าทางนิวเคลียร์ ซึ่งเป็นสิ่งที่มอสโกกล่าวว่าต้องการ “หลีกเลี่ยง”
“รัสเซียมีความอดทนและไม่ข่มขู่ใครด้วยความได้เปรียบทางทหาร แต่มีอาวุธพิเศษที่ทันสมัยซึ่งสามารถทำลายล้างศัตรูใดๆ ก็ได้ รวมถึงสหรัฐฯ ในกรณีที่เป็นภัยคุกคามต่อการดำรงอยู่ของรัสเซีย” นายปาตรูเชฟ ซึ่งเป็นผู้ช่วยคนสนิทของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน กล่าว
รัสเซียเริ่มปฏิบัติการทางทหารในยูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565 โดยอ้างว่าเพื่อ “ปลดแอกนาซี” และ “ลดกำลังทหาร” ในประเทศนี้ และเพื่อต่อต้านการคุกคามของอดีตสาธารณรัฐโซเวียตที่เข้าร่วมกับนาโต้ อย่างไรก็ตาม เคียฟและพันธมิตรกล่าวว่าเป็นข้ออ้างที่ไม่มีมูลความจริง
นับตั้งแต่สงครามเริ่มต้นขึ้น ชาตพันธมิตรตะวันตกของสหรัฐฯ และยูเครนได้ส่งอาวุธมูลค่าหลายหมื่นล้านดอลลาร์ให้แก่เคียฟ ซึ่งรวมถึงระบบจรวด โดรน รถหุ้มเกราะ รถถัง และระบบสื่อสาร อีกประเทศตะวันตกได้กำหนดมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่อมอสโก
เครมลินเตือนหลายครั้งว่าการคว่ำบาตรรัสเซียและให้ความช่วยเหลือทางทหารของชาติตะวันตกต่อยูเครนเสี่ยงทำให้สงครามยืดเยื้อออกไปอีก 1 ปี
“นักการเมืองอเมริกันที่ติดกับดักโดยการโฆษณาชวนเชื่อของพวกเขาเองยังคงมั่นใจว่า ในกรณีที่เกิดความขัดแย้งโดยตรงกับรัสเซีย สหรัฐฯ จะสามารถยิงขีปนาวุธป้องกันได้ หลังจากนั้นรัสเซียจะไม่สามารถตอบโต้ได้อีกต่อไป นี่เป็นความโง่เขลาสายตาสั้นและอันตรายมาก” นายปาตรูเชฟ กล่าว
เครมลินได้เคยกล่าวว่า หนึ่งในเหตุผลที่ส่งกำลังทหารหลายหมื่นนายเข้ายูเครนในเดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว เพื่อตอบโต้ภัยคุกคามด้านความมั่นคงที่ถูกกล่าวหาว่าเกิดจากการที่เคียฟมีสายสัมพันธ์กับนาโต้
นับตั้งแต่เริ่มเกิดสงคราม มอสโกได้กล่าวหาสหรัฐฯ หลายครั้งว่าสร้างภัยคุกคามทางนิวเคลียร์ต่อรัสเซีย และรัสเซียได้ตอบสนองด้วยการแสดงความพร้อมที่จะใช้อาวุธนิวเคลียร์ในกรณีที่มีภัยคุกคามต่อสหพันธรัฐรัสเซีย
เมื่อวันเสาร์ (25 มี.ค.66) ปูตินกล่าวว่า มอสโกจะประจำการขีปนาวุธนิวเคลียร์ทางยุทธวิธีในเบลารุส ซึ่งมีพรมแดนติดกับยูเครนและรัสเซีย การเคลื่อนไหวที่ไม่คาดคิดนี้เป็นการส่งคำเตือนไปยังนาโต้ที่ให้การสนับสนุนทางทหารต่อยูเครนและความขัดแย้งที่เพิ่มขึ้นของรัสเซียกับชาติตะวันตก