MEMO – 2 เม.ย. 66 ปากีสถานออกมาปฏิเสธรายงานที่ระบุว่ามีความสัมพันธ์ทางการค้ากับอิสราเอล และยืนยันว่าจะตรวจสอบสินค้าใด ๆ ที่ถูกกล่าวหาว่า “ส่งออก” ไปยังรัฐยึดครอง ซึ่งอิสลามาบัดไม่มีความสัมพันธ์ทางการทูต
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 30 มี.ค. 66 สภาชาวยิวแห่งอเมริกา (AJC) ได้ออกแถลงการณ์เรื่อง “การค้าระหว่างรัฐอิสราเอลและปากีสถาน” โดยอ้างว่าสินค้าล็อตแรกจากปากีสถานได้ส่งถึงอิสราเอลแล้ว
อย่างไรก็ตาม โฆษกสำนักงานต่างประเทศของปากีสถาน มุมตาส ซะห์รา บาโลช ได้ปฏิเสธคำกล่าวอ้างดังกล่าว โดยระบุว่า “ไม่มีการเปลี่ยนแปลงในนโยบายนี้” ซึ่งหมายถึงจุดยืนของอิสลามาบัดที่ไม่มีความสัมพันธ์ทางการทูตหรือการค้ากับอิสราเอล
ด้านโฆษกกระทรวงพาณิชย์ยังกล่าวอีกว่า “ข่าวลือเกี่ยวกับการเริ่มต้นการค้าระหว่างปากีสถานกับอิสราเอลเป็นเพียงการโฆษณาชวนเชื่อเท่านั้น เราไม่มีหรือตั้งใจที่จะเริ่มต้นความสัมพันธ์ทางการค้ากับอิสราเอล”
ในขณะที่รัฐมนตรีพาณิชย์และการค้าปากีสถานปฏิเสธการส่งออกสินค้าใดๆ ให้อิสราเอล โดยระบุว่า “การกล่าวอ้างอื่นใดจากนี้เป็นเพียงข้อมูลที่บิดเบือนและมีแรงจูงใจทางการเมือง”
เมื่อต้นสัปดาห์ ฟิชเชล เบนคาลิด นักธุรกิจชาวปากีสถานเชื้อสายยิวซึ่งมีสำนักงานอยู่ที่เมืองการาจี ประกาศบนทวิตเตอร์ว่าเขาประสบความสำเร็จในการส่งออกผลผลิตปากีสถานชุดแรกไปยังอิสราเอล ซึ่งรวมถึงอินทผลัม ผลไม้แห้ง และเครื่องเทศ และแชร์วิดีโอที่อ้างว่ารายการอาหารของเขาจัดแสดงอยู่ที่ตลาดเยรูซาเล็ม
จากข้อมูลของกระทรวงพาณิชย์ การส่งออกของเบนคาลิดดำเนินการผ่านยูเออี “อันดำเนินการในนามส่วนบุคคล” และ “ไม่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลปากีสถาน และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับช่องทางการธนาคารหรือทางการ”
ปีที่แล้ว รัฐบาลปากีสถานปฏิเสธคำกล่าวอ้างของการเปลี่ยนแปลงนโยบายที่มีต่ออิสราเอล หลังจากมีรายงานว่า “คณะผู้แทนของปากีสถาน” เยือนอิสราเอล ในเวลานั้นกระทรวงการต่างประเทศกล่าวว่า การเยือนดังกล่าว “จัดขึ้นโดยองค์กรพัฒนาเอกชนต่างประเทศที่ไม่ได้ตั้งอยู่ในปากีสถาน” และ “ปากีสถานสนับสนุนอย่างแน่วแน่ต่อสิทธิในการตัดสินใจด้วยตนเองของชาวปาเลสไตน์ที่ไม่อาจแบ่งแยกได้”
