เปิดแผนพัฒนาเขตสวนหลวง-ประเวศ ของ “ลอรี่-พงศ์พล ยอดเมืองเจริญ” ผู้สมัครส.ส.จาก “รวมไทยสร้างชาติ”

“ลอรี่–พงศ์พล ยอดเมืองเจริญ” ผู้สมัครส.ส.พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เขตเลือกตั้งที่ 22 เขตสวนหลวงและ เขตประเวศ (เฉพาะแขวงหนองบอน)

เปิดแผนพัฒนาเขตสวนหลวง-ประเวศ ของ“ลอรี่–พงศ์พล ยอดเมืองเจริญ” คนรุ่นใหม่ โปรไฟล์เด่น จากพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ผู้สมัครส.ส.เขตเลือกตั้งที่ 22 เขตสวนหลวง, เขตประเวศ (เฉพาะแขวงหนองบอน) กรุงเทพฯ

ท่ามกลางสมรภูมิเลือกตั้ง 2566 ที่ดุเดือดเข้มข้น “ลอรี่–พงศ์พล” ลงพื้นที่หาเสียงชนิดหามรุ่งหามค่ำเข้าหาพี่น้องประชาชนแบบไม่ต้องมีวันหยุดหรือเวลาพักผ่อนกันเลย กระนั้นเขาก็ยินดีเจียดเวลามาพบเมื่อผู้สื่อข่าวเดอะพับลิกโพตต์ติดต่อขอสัมภาษณ์

ในช่วงเวลาสั้นๆ เราเลือกที่จะถามถึงนโยบายและแผนพัฒนา “ระดับท้องที่”  ซึ่งเดอะพับลิกโพตต์ได้รวมรวมนโยบายสำคัญๆ 5 ข้อ ที่ผู้สมัครส.ส.กทม.เบอร์ 12 คนนี้ ตั้งใจจะผลักดันให้ท้องที่สวนหลวง-ประเวศ หากเขาได้มีโอกาสเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎร

สร้างสวนหลวงอย่างยั่งยืน

ในการให้สัมภาษณ์กับเดอะพับลิกโพสต์ “ลอรี่-พงศ์พล” บอกว่า อย่างแรกที่ตนจะทำก็คือเรื่อง “ความยั่งยืน” (Sustainability) โดยความหมายของเขาก็คือ “จะทำให้สวนหลวง–ประเวศ เป็นเขตพัฒนายั่งยืน”

“คือเราจะพัฒนาให้เขตนี้เป็นพื้นที่นำร่อง ยกตัวอย่างเช่น ไฟฟ้าตามชุมชนต่างๆ ทุกวันนี้เป็นระบบใช้หลอดไฟปกติ ซึ่งก็มีปัญหากันเยอะ โดยเฉพาะหลายชุมชนที่ผมไปลงพื้นที่ ริมคลองยามดึกดื่นก็จะมีปัญหา หลอดไฟขาด ไฟดับ และไม่มีการแก้ไข ก็ทำให้พื้นที่ริมคลองเป็นพื้นที่ที่มืดสนิท และมีอาชญากรรมเกิดขึ้นมาก ซึ่งสร้างความไม่สบายใจเป็นกังวลของคนในพื้นที่อย่างมาก”

“วิธีแก้ก็คือ เราจะเปลี่ยนเป็นระบบโซลาเซลล์ทั้งหมดทั้งเขต  ซึ่งเรื่องนี้ผลักดันให้ทำได้แน่นอน แล้วก็เป็นการลงทุนที่คุ้มค่า และผมคิดว่าในเพียงแค่ 1 ปีก็น่าจะคืนทุนแล้ว”

จากการศึกษารายละเอียดเขาบอกว่า “ปัจจุบันมันมีปัญหาเรื่องการเบิกจ่ายหลอดไฟระหว่างการไฟฟ้านครหลวงกับ กทม. มีการเซ็น MOU กัน แต่เมือหลอดไฟฟ้าขาด ทำให้ไฟดับ ก็ไม่รู้ว่าจะต้องเป็นหน้าที่ใครที่มาเปลี่ยนหลอดไฟ มันก็เลยมีปัญหา แต่ถ้าเราเอาพลังงานทดแทนอย่างพลังงานแสงแดดที่มีอยู่แล้วมาใช้ทั้งสวนหลวง ประเวศ ริมคลองและทุกพื้นที่จะไม่มีวันไฟดับ ไม่มีวันมืด สว่างไสวตลอด”

นอกจากตัวอย่างเรื่องเปลี่ยนหลอดไฟแล้ว “ลอรี่-พงศ์พล ยอดเมืองเจริญ” ได้พูดถึง “การจัดการขยะ” โดยบอกว่า พรรครวมไทยสร้างชาติมีนโยบาย “เปลี่ยนขยะเป็นเงิน”

“เราจะส่งเสริมให้แยกขยะกัน อย่างเช่น พลาสติก โลหะ หรือขยะอินทรีย์ ขยะชีวมวลต่าง ๆ ซึ่งขยะชีวมวลอันนี้แหละที่สำคัญ เพราะว่าตรงนี้เรามีโรงไฟฟ้าที่สามารถเอาขยะจำพวกเศษข้าวเศษอาหารเอาไปแปลงเป็นไฟฟ้าได้แล้ว

“อันนี้ก็เป็นนโยบายหลักของรวมไทยสร้างชาติที่จะเปลี่ยนขยะเป็นเงิน และสร้างรายได้ให้กับชุมชน ประชาชนตัวเล็กๆ  ขณะที่เราได้พลังงานสะอาดมาทดแทนด้วย” ลอรี่-พงศ์พล กล่าว

“ผังรังผึ้ง” แก้ปัญหารถติดเขตสวนหลวง

ปัญหารถติดเป็นเรื่องที่ทุกคนต้องเผชิญอยู่ตลอดเวลาทุกเช้า-เย็น  ลอรี่-พงศ์พล บอกว่า “ปัญหารถติดนี้บางคนบอกมันแก้ยาก มันต้องทำรถไฟฟ้าอย่างเดียว แต่ผมว่าจริงๆ แล้วมันมีเรื่องของการพัฒนาแผนผัง ผังเมือง โดยเฉพาะในตรอกซอกซอย”

“ทุกวันนี้ถนนหลัก ๆ ในเขตเราก็จะมีถนนอ่อนนุช ถนนพระราม 9 ถนนพัฒนาการ ถนนศรีนครินทร์ เป็นต้น ซึ่งถนนทั้งสี่สายนี้ก็จะมีภาระล้น มีคนสัญจรมากอยู่แล้วโดยเฉพาะช่วงเวลาเร่งด่วน เพราะฉะนั้นวิธีแก้ เราพยายามที่จะแก้ด้วยวิธีการใช้ผังรังผึ้ง”

ซึ่งเขาอธิบายว่า ก็คือการทำให้ที่ซอยที่เคยตันสามารถเชื่อมโยงทะลุถึงกันได้เยอะๆ “ตัวอย่างถนนพัฒนาการ ซอย 40 กว่า 50 กว่า เป็นซอยตันทั้งหมด แต่จริงๆ แล้วมันยังสามารถเชื่อมและลากมาถึงอ่อนนุชได้ ทุกวันนี้ซอยที่ทะลุอ่อนนุชกับพัฒนาการซึ่งกันและกันมีแค่ อ่อนนุช 17  พัฒนาการ 20  มีอยู่ 2 ซอย และรถก็วิ่งกันจ้าละหวั่น“

“ผมคิดว่าถ้าเราสามารถพัฒนาแผนผัง ค่อยๆ เป็นค่อยไปนะ ไม่ได้หมายถึงว่าทำทั้งหมด แต่ค่อยๆ ตัดให้เป็นรัง คล้ายๆ วาฟเฟิล มันก็จะลดภาระจำนวนรถยนต์ที่ต้องพึ่งพาถนนใหญ่ตลอดเวลา สามารถสัญจรกันได้ดีขึ้น นี่เป็นสิ่งที่ผมคิดว่า ควรทำ มันทำได้และมันคุ้มค่ากับการที่จะทำให้สวนหลวงประเวศนั้นพัฒนาได้อย่างยั่งยืนและการจราจรจะเบาตัวลงตรงถนนใหญ่” ลอรี่-พงศ์พล ยอดเมืองเจริญ อธิบาย

“ลอรี่–พงศ์พล ยอดเมืองเจริญ” ผู้สมัครส.ส.พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เขตเลือกตั้งที่ 22 เขตสวนหลวงและ เขตประเวศ (เฉพาะแขวงหนองบอน)

ลด “PM 2.5“ ด้วย พรบ.อากาศบริสุทธิ์

“ลอรี่-พงศ์พล” ผู้สมัคร สส. สวนหลวง-ประเวศ เบอร์ 12  ได้พูดถึง “PM 2.5”  อีกเรื่องหนึ่งซึ่งทุกคนน่ากระทบกันหมด

“การที่เราสูดฝุ่นละอองขนาดเล็กๆ เข้าไปทุกๆ วันอายุขัยก็จะลดลงเรื่อยๆ อันนี้ตามผลวิจัยของต่างประเทศนะครับ ลดลงประมาณสักครึ่งปีอายุคนเรานะ ถ้าคิดว่าดมไอฝุ่นที่คิดว่ามันเป็นเรื่องเล็กๆ แต่มันไม่เล็กอย่างนั้น”

ซึ่งเขาบอกว่าอันที่จริงเรื่องนี้ควรจะเป็นวาระแห่งชาติ  วิธีแก้ก็คือเราต้องมี พรบ.ต่อสู้เพื่ออากาศบริสุทธิ์ ซึ่งเขาจะผลักดันเรื่องนี้และควรจะต้องตั้งคณะกรรมการผู้มีอำนาจเต็มในการจัดการ

“ทุกวันนี้คนที่จัดการกับควันพิษ 2.5 ก็คือ กรมควบคุมมลพิษ ซึ่งไม่มีอำนาจใดๆ เลยที่จะทำ รถปล่อยควันดำ ปล่องไฟจากโรงงานอุตสาหกรรมปล่อยควัน ไม่มีอำนาจอะไรที่จะไปจับ หรือตรวจสอบ หรือควบคุมใดๆ ทั้งสิ้นนะครับ” ลอรี่อธิบาย และว่า

“เพราะฉะนั้นวิธีที่ควรจะทำก็คือ เราตั้งคณะกรรมการโดยที่ประกอบไปด้วยผู้มีอำนาจ อย่างเช่น ปลัดกระทรวงจาก 6 กระทรวง อย่าง กระทรวงคมนาคม กระทรวงพลังงาน กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกระทรวงที่มองข้ามไม่ได้คือกระทรวงการต่างประเทศนะครับ”

“คืออยากจะบอกว่า PM 2.5 ทุกวันมันไม่ใช่ปัญหาแค่ในประเทศแต่มันเป็นปัญหาระดับภูมิภาค ยกตัวอย่างเช่น จังหวัดที่มี PM 2.5 เยอะที่สุดอย่างเชียงใหม่หรือขอนแก่น มันเป็นควันพิษที่มาจากทางเพื่อนบ้านทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นการที่มีกระทรวงการต่างประเทศเราก็สามารถที่จะเจรจาเรื่องของเป็นเหมือนค่าปรับในการที่ควันพิษข้ามประเทศกัน ซึ่งประเทศสิงคโปร์ทำมาแล้วนะครับ”

สิงคโปร์มีค่า PM 2.5 ทะลุเป้าเลย ทั้ง ๆ ที่ประเทศไม่ได้ทำอะไรเลย ไม่ได้เผาชีวมวล ไม่ได้เผาไร่เผานา เพราะว่าควันมาจากอินโดนีเซีย และเขาก็เจรจาทางการทูตจนสามารถมีค่าปรับควันพิษที่ข้ามถิ่นระหว่างกันได้ ซึ่งตรงนี้มันสำคัญกับสวนหลวงเพราะคิดว่ามันเป็นภาพรวมที่มากระทบที่สวนหลวงด้วย เพราะฉะนั้นประเด็นนี้ก็จะเป็นประเด็นที่ผมจะผลักดันในระดับนิติบัญญัติ เพื่อที่จะได้ช่วยแก้ปัญหาแบบครบวงจร”

สวนหลวง “คูคลองสวย”

“ลอรี่-พงศ์พล” บอกกับเดอะพับลิกโพสต์ว่า หากได้เป็นส.ส.ตนมีแผนที่จะขุดลอกคูคลองในเขตสวนหลวง “ทุกสองเดือน” ทั้งเพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วม  ลดน้ำขังจากขยะซึ่งเป็นต้นเหตุหลักของการเกิดโรค  และฟื้นความสวยงามของลำน้ำในเขตนี้

“ผมรู้สึกว่าจริงๆ คลองในสวนหลวงเนี่ยสวย ๆ เยอะมาก แต่ทำไมเรายังไม่ดีเท่ากับคลองอื่น จริงๆ แล้วคลองน่ะมันลึกเป็น 6 เมตร 8 เมตร แต่ทุกวันนี้ถ้าคุณเอาไม้ลงไปจุ่มดูคลองในสวนหลวงก็จะพบเลยว่ามันตื้นมาก เพราะมันมีแต่ปฏิกูลอยู่ด้านล่าง และทำไมมันเป็นอย่างนั้น ก็เพราะกว่าการจัดการในการที่จะขุดคลอกคูคลองมันไม่ได้มีการทำอย่างสม่ำเสมอ”

“หรือเมื่อมีการขุดลอก ผมได้ยินเวลาผมไปในชุมชนเขาบอกว่ามีการขุดขึ้นมาจริง ชาวบ้านบอกให้ช่วยลอกคลอง แต่ปรากฏว่าไม่มีรถเข้ามาขนออกไป ขยะเหล่านั้นก็ถูกกองไว้ข้างๆ คลอง และเวลาฝนตกลงมาอีกมันก็จะไหลลงไปในคลองอีก ทุกอย่างมันเหมือนไม่ได้มีการเอาจริงเอาจังในการแก้ปัญหา”

“เพราะฉะนั้นการขุดคูคลองทุกสองเดือนมันจึงสำคัญ นอกจากลดน้ำขังจากขยะซึ่งเป็นต้นเหตุหลักของการเกิดโรค อย่างโรคไข้เลือดออก ทำให้มีคนป่วยมากกว่าปีที่แล้วเป็น 5 เท่า นอกจากนี้ยังช่วยในเรื่องของการระบายน้ำนะครับ เวลาที่มีอุทกภัย น้ำท่วมบางทีเดี๋ยวนี้ฝนตกแค่ 15 นาที น้ำท่วมแล้ว นั่นเป็นเพราะส่วนนึงทางน้ำไหลมันไม่ดี เพราะฉะนั้นผมคิดว่าการขุดลอกคูคลองมันดีทั้งขึ้นทั้งล่องนะครับ ”

บ่อดักไขมันประจำตลาดและสตรีทฟู้ด

เรื่องสุดท้ายที่ “ลอรี่-พงศ์พล” บอกว่าตนต้องการจะทำให้เขตสวนหลวง-ประเวศ ก็คือเรื่องของ “บ่อดักไขมันประจำตลาดและสตรีทฟู้ด”

“เมืองไทยเป็นเมืองสตรีทฟู้ดอยู่แล้ว มันก็จะมีประเด็นตรงที่ว่าบางร้านขายอาหารไทย เช่น ร้านก๋วยเตี๋ยว พอขายหมดแล้วก็คิดว่าแค่เป็นน้ำซุปเนี่ยก็เทลงไปเลยในท่อได้ แต่ในความเป็นจริงแล้วน้ำพวกนี้เวลามันลงไปมันกลายเป็นไขมันชั้นแข็ง ๆ ที่เกาะกัน”

“เพราะฉะนั้นมันก็จะเป็นตัวสำคัญเลยที่จะปิดกั้นการไหลระบายน้ำเสียด้านล่าง เวลาฝนตกถ้าสังเกต จุดที่เปราะบางและเป็นจุดที่ท่วมก่อนก็คือตรงตลาดที่มีสตรีทฟู้ดอยู่นี่แหล่ะ“

“ผมก็เลยคิดว่าจริง ๆ แล้วทำไมเราไม่จัดเตรียมตัวบ่อดักไขมันแต่ละตลาดที่มีอยู่นะครับ และทุกคนแสดงความรับผิดชอบด้วยการแค่มาเทเท่านั้น กรองตรงนี้แล้วค่อยปล่อยน้ำลงท่อระบายน้ำ แค่นี้ก็จะแก้ปัญหาเรื่องน้ำท่วมฉับพลันในสวนหลวงประเวศเราได้แล้ว”

อ่านเรื่องที่เกี่ยวข้อง

เลือดใหม่! “ลอรี่-พงศ์พล ยอดเมืองเจริญ” หนึ่งเดียวมุสลิมผู้สมัครส.ส.เขตสวนหลวง ลุ้นปักธง “รวมไทยสร้างชาติ”