สถานเอกอัครราชทูตซาอุดิอาระเบียประจำประเทศไทย แถลงตอบรับการร้องขอจากกระทรวงการต่างประเทศของไทย ในการช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกการอพยพคนไทยในประเทศซูดาน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคมที่ผ่านมา สถานเอกอัครราชทูตซาอุดิอาระเบียประจำประเทศไทย ได้แถลงต่อกรณีการให้ความช่วยเหลือคนไทยในประเทศซูดานว่า ด้วยความสัมพันธ์ที่ดีระหว่าง 2 ประเทศนั้น ราชอาณาจักรซาอุดิอาระเบียได้ตอบรับการร้องขอจากราชอาณาจักรไทยอย่างรวดเร็วในการให้ความช่วยเหลือคนไทยในประเทศซูดาน โดยความต่อเนื่องของความพยายามของราชอาณาจักรซาอุดิอาระเบีย ภายใต้นโยบายของผู้นำประเทศ ในการอพยพพลเมืองของมิตรประเทศต่างๆ จากสถานการณ์ในประเทศสาธารณรัฐซูดาน ไปยังประเทศซาอุดีอาระเบียนั้น เมื่อวันพุธที่ 26 เมษายน 2566 มีการอพยพชาวไทย 79 คน ซึ่งได้เดินทางถึงท่าเรือเจดดาห์แล้วโดยเรือของซาอุดิอาระเบีย
ทั้งนี้ ราชอาณาจักรซาอุดิอาระเบียยังได้จัดเตรียมปัจจัยและความช่วยเหลือขั้นพื้นฐานต่างๆ สำหรับชาวต่างชาติเพื่ออำนวยความสะดวก ในการเดินทางกลับไปยังประเทศของตน โดยตั้งแต่เริ่มปฏิบัติการอพยพ มีจำนวนผู้อพยพที่ดำเนินการโดยทางการซาอุดิอาระเบียทั้งหมดรวมแล้ว 2,351 คน จาก 67 สัญชาติ
ในการนี้ ฯพณฯ อับดุลเลาะห์มาน อัลซุไฮบานี่ เอกอัครราชทูตซาอุดิอาระเบียประจำประเทศไทย ได้กล่าวถ้อยแถลง ความว่า การอพยพพลเมืองที่ได้รับความเดือดร้อนจากเหตุการณ์สู้รบในสาธารณรัฐซูดานนั้นเป็นนโยบายของพระราชาธิบดีกษัตริย์ซัลมาน บิน อับดุลอาซีซ ผู้ทรงดูแลมัสยิดศักดิ์สิทธิ์สองแห่งและสมเด็จมกุฎราชกุมาร – ขอพระเจ้าทรงคุ้มครองทั้งสองพระองค์ – และเป็นการให้ความช่วยเหลือพลเมืองของทุกประเทศ
ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียยังคงพยายามทุกวิถีทางเพื่อยับยั้งการนองเลือด ยุติการสู้รบ และกลับสู่เส้นทางของการแก้ปัญหาทางการเมืองในซูดาน ดังนั้นซาอุดิอาระเบียยังคงสื่อสารกับฝ่ายต่าง ๆ ในซูดานและกับมิตรประเทศทั้งหลายและองค์กรระหว่างประเทศในการแก้ไขปัญหา และมีความคืบหน้าใดๆ จะมีการประกาศให้ทราบต่อไป
ปฏิบัติการอพยพได้ดำเนินการโดยกองทัพเรือซาอุดีอาระเบีย โดยได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานต่างๆ ถือเป็นการอพยพทางเรือครั้งแรกนับตั้งแต่เกิดความขัดแย้งในสาธารณรัฐซูดาน ปฏิบัติการดังกล่าวเป้าหมายเพื่อให้ความปลอดสำหรับพลเมืองที่ตกค้างในการอพยพจากคาร์ทูมไปยังท่าเรือพอร์ตซูดาน และจากนั้นไปยังท่าเรือเจดดาห์
การตอบสนองของซาอุดีอาระเบียต่อคำขอจากมิตรประเทศต่างๆเพื่อช่วยเหลือพลเมืองของตนที่ติดค้างในสาธารณรัฐซูดาน ซึ่งปฏิบัติการนี้เป็นส่วนหนึ่งของบทบาทที่สำคัญของซาอุดีอาระเบียในฐานะพันธมิตรที่เป็นที่พึ่งพิงได้สำหรับประชาคมโลก โดยพลเมืองที่ได้รับการอพยพออกโดยกองทัพเรือซาอุดีอาระเบียมาจาก 67 ประเทศ รวมถึงนักการทูตและเจ้าหน้าที่ระหว่างประเทศ จำนวนผู้ที่ได้รับการอพยพช่วยเหลือมีจำนวน 2,351 คน จากสัญชาติต่างๆ รวมทั้งชาวไทย 79 คน
ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียขอชื่นชมการสนับสนุนและความร่วมมือจากฝ่ายต่างๆในสาธารณรัฐซูดานเพื่ออำนวยความสะดวกในการอพยพผู้อพยพที่ติดค้างอยู่ โดยราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียยังคงติดต่อโดยตรงกับมิตรสหายในซูดานเพื่อหาเส้นทางที่ปลอดภัยในการอพยพพลเมืองของประเทศต่างๆ และการประสานงานเพื่อออกวีซ่าเข้าประเทศแก่เจ้าหน้าที่ประเทศต่างๆนั้นเป็นไปด้วยดี
นอกจากนี้แล้ว ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียยินดีสนับสนุนความร่วมมือกับมิตรประเทศต่างๆเพื่อให้เกิดการหยุดยิง และเปิดช่องทางด้านมนุษยธรรม และปกป้องพลเรือน รวมทั้งยังคงให้ความช่วยเหลือจัดการ ประสานงาน และจัดเตรียมการอพยพด้วยความพยายามอย่างต่อเนื่องจากหน่วยงานต่างๆ ของซาอุดีอาระเบีย ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้แน่ใจว่าพลเรือนจากทุกเชื้อชาติสามารถเดินทางออกมาได้อย่างปลอดภัย และขยายความช่วยเหลือที่เป็นไปได้ทั้งหมดแก่มิตรประเทศต่างๆ ในเรื่องนี้