GSK คว้ารางวัล “สุดยอดองค์กรที่น่าร่วมงานด้วยที่สุดในเอเชีย” เดินหน้าขับเคลื่อนบุคลากร ก้าวสู่วัฒนธรรมองค์กรยุคใหม่

คำบรรยายภาพ (จากซ้ายไปขวา): คุณโสมรสา พงษ์เพิ่มพฤกษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กรและรัฐกิจสัมพันธ์ เภสัชกรหญิงจิราภา เปรมปลื้มจิตต์ รักษาการกรรมการผู้จัดการ คุณอุษณี อภิรัตน์ภิญโญ HR Country Head บริษัท แกล็กโซสมิทไคล์น (ประเทศไทย) จำกัด (GSK)

GSK ตอกย้ำความเป็นเลิศด้านการบริหารและพัฒนาทรัพยากรบุคคลอย่างโดดเด่นในระดับสากล พร้อมขับเคลื่อนองค์กรให้ทันสมัยและเติบโตอย่างยั่งยืน ด้วยการคว้ารางวัลสุดยอดองค์กรที่น่าร่วมงานด้วยมากที่สุดในเอเชียประจำปี 2566 ในประเทศไทย (Best Companies to Work for in Asia Awards 2023 – Thailand Edition) จาก HR Asia สื่อชั้นนำด้านทรัพยากรบุคคล

เภสัชกรหญิงจิราภา เปรมปลื้มจิตต์ รักษาการกรรมการผู้จัดการ บริษัท แกล็กโซสมิทไคล์น (ประเทศไทย) จำกัด หรือ GSK เปิดเผยว่า ในฐานะบริษัท Biophama เราให้ความสำคัญในการค้นคว้าวิจัยยาและวัคซีนนวัตกรรมเพื่อให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น มุ่งมั่นขับเคลื่อนองค์กรภายใต้แนวคิด “Ahead Together” นำองค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี ผสานกับองค์ความรู้ ตลอดจนความสามารถของพนักงาน เพื่อร่วมใจกันทุ่มเทพัฒนานวัตกรรมด้านสุขภาพให้ก้าวล้ำนำโรคต่าง ๆ โดยมีเป้าหมายในการส่งเสริมสุขภาพและพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่ผู้คนทั่วโลกกว่า 2.5 พันล้านคนในอีก 10 ปีข้างหน้า”

“สำหรับการคว้ารางวัลสุดยอดองค์กรที่น่าร่วมงานด้วยมากที่สุดในเอเชียประจำปี 2566 ในประเทศไทยครั้งนี้ สะท้อนถึงการเป็นองค์กรที่ทันสมัยของ GSK พร้อมขับเคลื่อนองค์กรและพนักงานให้เติบโตสู่ความสำเร็จอย่างยั่งยืน ด้วยวิสัยทัศน์ ‘Ambitious for patients’ สนับสนุนให้พนักงานมีแรงผลักดันอันแรงกล้า โดยเน้นผู้ป่วยเป็นศูนย์กลาง ส่งเสริมการมีสุขภาพดีและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้แก่ผู้ป่วยในเวลาอันรวดเร็วขึ้น อีกทั้งกลยุทธ์ส่งเสริมการป้องกันและรักษาด้วยนวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์ที่มีประสิทธิภาพ โดยใช้เทคโนโลยีขั้นสูง เพื่อการดูแลสุขภาพในอนาคตครอบคลุมใน 4 ด้านหลัก ได้แก่ โรคติดเชื้อ โรคติดเชื้อเอชไอวี โรคมะเร็ง และภูมิคุ้มกันวิทยา โดยดำเนินงานภายใต้หลักธรรมาภิบาล ความรับผิดชอบ เลือกทำในสิ่งที่ถูกต้อง ส่งผลให้ GSK ได้รับความไว้วางใจจากผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย” เภสัชกรหญิงจิราภากล่าว

คุณอุษณี อภิรัตน์ภิญโญ HR Country Head ของจีเอสเค กล่าวเสริมว่า ท่ามกลางความท้าทายในปัจจุบัน GSK มีวัฒนธรรมองค์กรที่มุ่งเน้นการสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ทันสมัย ส่งเสริมให้พนักงานมีความสุขทั้งกายและใจ และมีโอกาสพัฒนาศักยภาพเพื่อการเติบโตในองค์กรอย่างยั่งยืน ผ่าน 3 แนวทางหลัก คือ “Be You – Feel Good – Keep Growing” ประกอบด้วย

1) Be You: ให้พนักงานสามารถพัฒนาศักยภาพและขีดความสามารถของตนเองได้อย่างมีความสุข ด้วยแนวทางปฏิบัติเรื่องความหลากหลาย ความเท่าเทียม และการไม่แบ่งแยก หรือ “DEI” (Diversity, Equity, Inclusion) เปิดโอกาสและส่งเสริมการเติบโตของพนักงานที่มีความหลากหลายทางเพศ เชื้อชาติ ตลอดจนผู้มีความบกพร่องทางร่างกายอย่างเท่าเทียมกัน ครอบคลุม 4 มิติ ประกอบด้วย Be You, Inclusive Culture, Diversity Thought และ Psychological Safety รวมถึงวัฒนธรรม Straight Talk พูดคุยอย่างตรงไปตรงมาในการทำงาน

2) Feel Good: สร้างแรงจูงใจในการมีส่วนร่วมด้วยกิจกรรม Employee Listening & Engagement ผ่านแบบสำรวจรายไตรมาสและประจำปี รับฟังความคิดเห็นของพนักงานที่มีต่อการทำงานในองค์กรอย่างใกล้ชิด เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพพนักงานอย่างดีที่สุด สร้างสถานที่ทำงานที่ดีสำหรับทุกคน ด้วยวัฒนธรรมองค์กร Big 4 Culture Initiatives ประกอบด้วย Meeting Excellence, Execution Excellence, New Idea In Action และ Make Your Voice Count

3) Keep Growing: พัฒนาความสามารถเชิงบูรณาการ และทักษะที่จำเป็นในอนาคต นำเทคโนโลยีมาปรับใช้เพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น ตอบโจทย์การแข่งขันทางธุรกิจ อาทิ กิจกรรมส่งเสริมความเป็นผู้นำ ฝึกอบรมด้านการสื่อสารให้กับผู้บริหารทั่วโลก เรียนรู้จากบริษัทชั้นนำเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้ทีมงานโครงการพัฒนาศักยภาพพนักงานขาย สร้างความสามารถ Omnichannel ผ่าน Gamification กิจกรรมพัฒนาทีมฝ่ายขายด้วยการตั้งเป้าหมายและมอบรางวัลรายไตรมาส ฝ่ายบุคคลและฝ่ายเทคโนโลยีทำงานร่วมกันเพิ่มประสบการณ์การทำงานที่ดีขึ้นด้วยข้อมูลเชื่อมถึงกันทั่วโลก และส่งเสริมวัฒนธรรมการลงมือปฏิบัติทั้งกิจกรรมภายในและภายนอกองค์กรครอบคลุม ESG

“การมีสุขภาพกายและใจที่ดีของพนักงานคือสิ่งสำคัญ GSK จึงมีนโยบาย “Performance with Choice” สนับสนุนให้สามารถทำงานที่ไหนก็ได้ เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ตลอดจนสร้างสมดุลการใช้ชีวิตส่วนบุคคลที่ดีขึ้น อีกทั้งใส่ใจดูแลสุขภาพของครอบครัวพนักงาน โดยเพิ่มวันลาคลอดสำหรับพนักงานหญิงเป็น 126 วัน และเพิ่มวันลาเพื่อดูแลสมาชิกในครอบครัวยามเจ็บป่วยเป็น 28 วัน โดยที่ยังได้เงินเดือนตามปกติ นอกจากนี้ มีการดูแลสุขภาพทางการเงินของพนักงานด้วย nudge.gsk.com จัดฝึกอบรมทีมผู้บริหารเรื่องสุขภาพจิต และมีกิจกรรมช่วยเหลือพนักงานในด้านต่าง ๆ ตลอด 24 ชั่วโมงผ่านแอปพลิเคชันและเว็บไซต์ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย เช่น ให้คำแนะนำด้านกฎหมาย จิตวิทยา และวิกฤตอื่น ๆ เพื่อสร้างพลังงานบวกรอบด้านให้พนักงานสามารถรับมือกับสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ในแต่ละช่วงของชีวิตควบคู่กับการบรรลุเป้าหมายในการทำงานได้สำเร็จ” คุณอุษณี กล่าวสรุป

ทั้งนี้ รางวัลสุดยอดองค์กรที่น่าร่วมงานด้วยมากที่สุดในเอเชียประจำปี 2566 เป็นรางวัลที่ HR Asia สื่อชั้นนำด้านทรัพยากรบุคคลได้มีการสำรวจแนวทางปฏิบัติและสภาพแวดล้อมการทำงานภายในองค์กรที่ยอดเยี่ยมครอบคลุมภูมิภาคเอเชีย