ระบอบไซออนิสต์จะสิ้นสุดลงทันทีหากไม่ได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯ ซึ่งเข้าไปจัดการสงครามของอิสราเอลในฉนวนกาซาตั้งแต่เดือนตุลาคม พ.ศ. 2566 ผู้บัญชาการทหารระดับสูงที่สุดของอิหร่านกล่าว
“ด้วยมือเปล่า ชาติปาเลสไตน์ที่ถูกกดขี่ได้ยืนหยัดต่อสู้กับไซออนนิสต์ ผู้ซึ่งจะต้องล่มสลายและสูญพันธุ์อย่างแน่นอนหากสหรัฐฯ หยุดสนับสนุนพวกเขาสักวันหนึ่ง” พล.ต.โมฮัมหมัด ฮอสเซน บาเกรี เสนาธิการกองทัพอิหร่าน กล่าวเมื่อวันจันทร์ (8 ม.ค.) ตามรายงานของตัสนีม สื่อกึ่งทางการอิหร่าน
เขาตั้งข้อสังเกตว่า มีผู้บัญชาการทหารอเมริกันจำนวนหนึ่งถูกส่งไปยังดินแดนปาเลสไตน์ที่ถูกยึดครองเพื่อจัดการกับสงครามอิสราเอล หลังจากที่กองกำลังฮามาสเปิดปฏิบัติการพายุอัลอักซอนอกฉนวนกาซาเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2566
“สหรัฐฯ ส่งระเบิดและอุปกรณ์ต่างๆ ไปยังรัฐไซออนิสต์ด้วยเครื่องบินจำนวนมากในแต่ละวัน” เขากล่าว พร้อมเสริมว่าประเทศในภูมิภาคตำวันออกลางอีกจำนวนหนึ่งยังได้จัดส่งสินค้าไปยังอิสราเอลทางเรือด้วย
“มีเรือหลายลำบรรทุกสินค้าและมุ่งหน้าสู่ดินแดนที่ถูกยึดครองทุกวัน แม้แต่จากท่าเรือของบางประเทศที่ผู้นำกล่าวคำขวัญอันเป็นเท็จว่าสนับสนุนชาวปาเลสไตน์ที่ถูกกดขี่” เขากล่าว
ในคำปราศรัยเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม อยาตุลลอฮ์ ไซยิด อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดอิหร่าน เน้นย้ำว่า เป็นหน้าที่ของรัฐบาลและประเทศต่างๆ ในการให้ความช่วยเหลือขบวนการต่อต้านไม่ว่าในรูปแบบใดก็ตาม “การช่วยเหลือกลุ่มต่อต้านเป็นหน้าที่ของทุกคน ในขณะที่การช่วยเหลือระบอบไซออนิสต์ถือเป็นอาชญากรรมและการทรยศ”
ผู้นำอิหร่านยังประณามรัฐบาลอิสลามบางประเทศที่กระทำความผิดทางอาญาในการช่วยเหลือระบอบไซออนิสต์ โดยเน้นว่า “ประเทศมุสลิมจะไม่ลืมปัญหานี้”
คาเมเนอีเน้นย้ำว่าเป็นหน้าที่ของรัฐบาลอิสลามที่จะต้องป้องกันไม่ให้สินค้า น้ำมัน และเชื้อเพลิงเข้าถึงระบอบไซออนนิสต์ ซึ่งเป็นระบอบการปกครองที่ปิดกั้นไม่ให้ประชาชนในฉนวนกาซาเข้าถึงน้ำได้
“ประเทศมุสลิมควรเรียกร้องให้รัฐบาลของตนตัดความสัมพันธ์และช่วยเหลืออาชญากรไซออนิสต์ หากพวกเขาไม่สามารถตัดความสัมพันธ์ได้อย่างถาวร อย่างน้อยพวกเขาก็ควรทำเป็นการชั่วคราวเพื่อสร้างแรงกดดันต่อระบอบการปกครองที่ชั่วร้าย โหดร้าย และกระหายเลือด ” ผู้นำอิหร่านเน้นย้ำ
