ท่ามกลางความพยายามของมุสลิมกลุ่มหนึ่งที่ต้องการสร้างความขัดแย้งในหมู่มุสลิมไทยให้ปะทุรุนแรง อ.อับดุลกอเดร มัสแหละ ได้เขียนบทความในหัวข้อ “ทำไมคณะเก่าไม่ต่อต้านชีอะต์?” โพสต์ในเฟสบุ๊คส่วนตัว https://www.facebook.com มีเนื้อหาน่าสนใจดังนี้ :
ทุกวันนี้คนเป็นคณะเก่า (ว่าแบบภาษาชาวบ้าน) ถูกตั้งคำถามว่าทำไมคณะเก่าไม่ต่อต้านหรือสู้กับชีอะต์เลย
เรื่องนี้ต้องบอกแบบนี้ครับ….
ประการแรก คณะเก่าถกกับชีอะต์มานานก่อนหน้าที่อีกฝ่ายจะต่อต้านชีอะต์เสียอีก
รื้อความหลังนิดนะ….แรกๆ ที่มีการปฏิวัติอิสลามในอิหร่านใหม่ๆ เดินแนวเอกภาพ เวลามีงานที่ศูนย์วัฒนธรรมฯอิหร่าน คณะเก่าส่วนใหญ่ที่ไปร่วมงาน เช่นงานละศีลอด หรืออื่นๆ ถึงเวลาละหมาดเขาก็ให้เรานำละหมาด ทำแบบซุนนีคณะเก่าทั่วๆ ไป
แต่เมื่อระยะต่อมา แนวเอกภาพเกิดรวนเร นำเรื่องอะห์กาม และอะกิดะห์มาเป็นตัวนำ คณะเก่าก็ทยอยถอยออกมา หลายครั้งก็นัดคุยกันทางวิชาการ ถึงขนาดโต้กันบนเวที คณะเก่าทำมาแล้ว ทำมานาน ปัจจุบันนี้ คณะเก่าเขามาถึงจุดสรุปว่า หากท่านเชื่อแบบนั้นก็ทำไป เราก็ทำแบบนี้
แต่การจะมาบังคับให้คณะเก่าไปฮุก่มเขาว่าเป็นกาเฟรนั้น ใครก็ไม่มีสิทธิมาบังคับกัน เพราะเรื่องนี้สุ่มเสี่ยงมาก ในเมื่อเขายังเชื่ออัลลอฮ์ และรอซูลฯ เราก็ไม่สามารถจะไปฮุก่มเขาได้
ส่วนเรื่องการวิพากษ์ต่อบรรดาสหายของท่านนบีฯ นั้นก็เป็นเรื่องที่ทางชีอะต์ ต้องรับผิดชอบไป เราเคยเรียกร้องหลายครั้งว่า ทางชีอะต์หากจะเรียกร้องเอกภาพจริงต้องหยุดประเด็นนี้เลย โดยผู้นำต้องออกมาฟัตวาให้ชัดเจน….แต่รู้สึกว่าทางผู้นำเขาออกคำฟัตวา เรียบร้อยแล้ว
…..แต่ก็อีกนั้นแหละ อีกฝ่ายก็คิดได้ว่า “อำพราง” อีกแล้ว ที่สำคัญเลยคือ เมื่อผู้นำออกคำฟัตวาแล้ว ผู้ตามโดยเฉพาะระดับล่างต้องตามโดยเคร่งครัด เข้าใจว่าเวลาเครื่องร้อน มันก็อยากจะออกตัวเร็ว แต่อันตรายครับ
สำหรับประเทศไทย ชีอะต์ก็มีมาหลายร้อยปีแล้ว จำนวนก็ไม่มาก น้อยกว่าคณะใหม่เท่าไหร่นัก แล้วจะกลัวอะไร…????
ประเด็นคณะเก่าไม่โต้ชีอะต์คงเข้าใจนะครับ ว่ากันแบบพอหอมปากหอมคอ
อีกประเด็นหนึ่งที่อีกฝ่ายต้องคิดให้จงหนัก…ว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา คณะเก่า คณะใหม่ ต่างก็ร่วมกิจกรรมกันด้วยความรัก และให้เกียรติกัน ในเรื่องอะห์กาม ไม่ว่ากัน…ถ้าจะว่ากันก็ในวงจำกัด หรือในวงวิชาการ
แต่มาระยะหลัง มันเกิดอะไรขึ้น ที่สื่อทีวี สื่อวิทยุ และอื่นๆ ต่างก็โจมตีต่อว่าคณะเก่าเสียๆ หายๆ คนเป็นคณะเก่าบาป ตกนรกกันแทบจะไม่ได้ขึ้นสวรรค์ อะไรก็ผิดหมด โจมตีกันออกสื่อ จนสังคมแตกแยกยับเยินแบบไม่เคยมีมาก่อน….แทบไม่ผิดอะไรกับเหลือง-แดง ที่ทำให้คนไทยแตกกันแบบที่ไม่เคยมีมาก่อนเช่นกัน
ก็อยากจะถามว่ามันเกิดอะไรขึ้น ที่ท่านจะต้องมาโจมตีกล่าวหา คนที่เชื่อ และคิดไม่เหมือนกันอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนในสังคมไทย นโยบายของใคร..??? คณะเก่านั่งฟังทนฟังมาหลายปี
วันดีคืนดีนักวิชาการของคณะเก่าทนไม่ได้ออกมาตอบโต้บ้าง…..เราได้ยินอยู่ไม่กี่ประโยค เช่น……
1. อย่าสร้างความแตกแยกกันเลย ….แล้วที่ผ่านมาใครสร้างความแตกแยกละครับ
2. เราเป็นพี่น้องกัน อย่ามาทะเลาะกันเลย…..แล้วที่ผ่านมาใครคิดละว่าท่านไม่ใช่พี่น้อง
พอคณะเก่าโดนหนำใจแล้ว ก็เป็นคิวของชีอะต์โดนบ้าง….แล้วก็จะให้คณะเก่าไปร่วมด่าชีอะต์ด้วย ก็คุณเพิ่งด่าพวกเราหยกๆ บอกพวกเราตกนรก ผิดโน่น บาปนี่ …..หันมาอีกทีก็ด่าเราอีกแล้วว่า ทำไมไม่ช่วยด่าชีอะต์ด้วย ทำไปทำมา กลับมาหาว่าคณะเก่าจับมือกับชีอะต์อีก
ดีนะครับภาพการจับมือกับบชีอะต์ ที่เห็นกันแบบชัดๆ กลับกลายเป็น อ.ชาฟีอี นภากร ไม่งั้นคณะเก่าโดนอ่วมอีกแน่
ฉะนั้น ณ.ห้วงเวลานี้ ในสถานการณ์ที่แตกแยกจนเกินเยียวยา การที่ท่านจะมาเรียกร้องให้คณะเก่าไปร่วมรบกับชีอะต์ คงต้องบอกได้คำเดียวว่า เราคงไม่เอาด้วยแล้ว เพราะที่ท่านตีเรา ยังเจ็บไม่หาย แล้วจะให้ไปรบราฆ่าฟันกับใครอีก เชิญตามสบายเลยครับ…เพราะขบวนการจัดระเบียบโลกใหม่ นั่งยิ้มอยู่แล้วครับ ที่เห็นพลังมุสลิมแตกเป็นเสี่ยงๆ
และขอบอกอีกที คณะเก่าอยู่ในประเทศนี้ เมืองนี้มาช้านาน ไม่เคยทะเลาะเบาะแว้งกับเพื่อนต่างความเชื่อ เราต่างรักใคร่กัน เป็นเพื่อนกัน
ในอดีตไม่ว่ามัสยิดจะเกิดขึ้นที่ไหน ก็ไม่เคยมีการต่อต้าน เราเคารพในความเชื่อที่ต่างกัน แค่เราต้องแก้ข้อหาต่อเพื่อนๆ ร่วมชาติก็หนักมากพอแล้ว
เพื่อนต่างความเชื่อหวาดระแวงอิสลาม และมุสลิม ถามนิดว่ามาจากใคร กลุ่มใหน…
อิสลามเข้ามาที่แหลมมลายู ต้องบอกว่าโดยคณะเก่า ผลิตนักวิชาการ อุลามาอฺ มามากมาย…ใครกันละที่กล่าวหาการศึกษาในระบบปอเนาะว่าผิด ใครกันที่บอกว่ากีตาบที่อุลามาอฺ แห่งระเบียงมักกะฮ์ แต่งขึ้นผิด ใครกันที่กล่าวหาว่าปอเนาะเป็นที่ฟักตัวของผู้ก่อการร้าย และที่สำคัญเพื่อนที่ต่างความเชื่อก็อยู่ร่วมกัน มานมนานไม่เคยหวาดระแวงกัน ในอดีตที่ทะเลาะก็ด้วยเหตุผลทางการเมือง และชาติพันธุ์ ไม่ใช่เรื่องความเชื่อ
คำถามมีง่ายๆ ชัดๆ รับนโยบายใครมา….ในเมื่อคณะเก่าก็ไปทำฮัจย์ เหยียบแผ่นดินฮารอมมาเช่นกัน ให้คนบาปไปทำฮัจย์ได้ไง ง่ายๆ ครับไม่ต้องออกวีซ่าให้ก็จบ กล้าป่าวละ ???
…ส่วนชีอะต์ อันนี้ก็ต้องไปถามอุลามาอฺซาอุฯ เอาเอง ว่าทำไมถึงให้ชีอะต์ไปทำฮัจย์ เหยียบแผ่นดินฮารอมได้ เมื่อเขาเป็นการเฟร ก็ไม่ต้องวีซ่า ง่ายอีกเช่นกัน
เรื่องชีอะต์อย่ามาโยนบาปให้คณะเก่าเลยนะ…ว่ากันไปเลย แต่ถ้าให้ดีจัดเวทีใหญ่ๆ สักเวทีก็ดีนะครับ…
—-
คลิ๊กอ่านต้นฉบับจากเฟสบุ๊ค อ.อับดุลกอเดร มัสแหละ https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=1516122572051584&id=100009615667397&fref=nf