อัลมะยาดีน – ในการเปิดเผยที่น่าสะเทือนใจ สำนักงานสื่อของรัฐบาลในฉนวนกาซารายงานว่าเด็กกว่า 17,000 คนต้องกลายเป็นเด็กกำพร้านับตั้งแต่อิสราเอลเริ่มการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ต่อชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซาเมื่อกว่าแปดเดือนที่ผ่านมา
ที่น่าตกใจกว่านั้น จากข้อมูลของสำนักงานสื่อของรัฐบาลในฉนวนกาซา พบว่า 3 เปอร์เซ็นต์ของเด็กกำพร้าในภูมิภาคนี้ต้องสูญเสียทั้งพ่อและแม่อย่างน่าเศร้าเนื่องจากการรุกรานของอิสราเอลอย่างต่อเนื่อง
รายงานของ “เซฟเดอะชิลเดรน” องค์การระหว่างประเทศด้านมนุษยธรรมสำหรับเด็ก เชื่อว่าเด็กชาวปาเลสไตน์ประมาณ 21,000 คนสูญหายเนื่องจากการโจมตีฉนวนกาซาอย่างเข้มข้นของ “อิสราเอล” การประมาณการนี้รวมถึงเด็กประมาณ 17,000 คนที่ถูกแยกออกจากครอบครัวและไม่มีผู้ปกครอง เช่นเดียวกับเด็กประมาณ 4,000 คนที่เกรงว่าจะหายไปใต้ซากปรักหักพัง
องค์กรยังเน้นย้ำด้วยว่าเด็กบางคนอาจถูกฝังในหลุมศพนิรนาม ในขณะที่คนอื่นๆ ถูกบังคับให้หายตัวไป รวมถึงเด็กที่ถูกลักพาตัวและพาออกจากฉนวนกาซา
เมื่อต้นปีที่ผ่านมา กองทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ (UNICEF) รายงานว่า “อิสราเอล” ได้สังหารเด็กในฉนวนกาซาไปแล้วกว่า 14,000 รายนับตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม โดยคนอื่นๆ อดอยากจนเสียชีวิตเนื่องจากภาวะทุพโภชนาการอันเป็นผลมาจากการปิดล้อมของอิสราเอลทั้งหมด
“ตั้งแต่เดือนตุลาคม กาซาเผชิญกับความรุนแรงอย่างไม่ลดละ ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนไปแล้วกว่า 37,000 ราย รวมถึงเด็กหลายพันคน” ตามรายงานของเซฟเดอะชิลเดรน
ณ วันที่ 9 มิถุนายน รายงานยังระบุด้วยว่ามีเด็กชาวปาเลสไตน์ประมาณ 250 คนที่ไม่มีการดูแลในเขตเวสต์แบงก์ที่ถูกยึดครอง