ผู้นำอิสราเอลเรียกร้องให้เปิดสงครามต่อเลบานอน ลอบสังหารผู้นำกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ หลังขีปนาวุธไม่ทราบที่มาโจมตีสนามฟุตบอลในหมู่บ้านมัจดาลชามส์ ส่งผลให้มีพลเรือนเสียชีวิตอย่างน้อย 11 ราย
เมื่อวันเสาร์ (27/7/2024) ที่ผ่านมา ขีปนาวุธไม่ทราบที่มาได้โจมตีสนามฟุตบอลในหมู่บ้านมัจดาลชามส์ ในพื้นที่ที่ราบสูงโกลันของซีเรียที่ถูกอิสราเอลยึดครอง ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่มีชาวซีเรียเชื้อสายดรูซอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ส่งผลให้มีพลเรือนเสียชีวิตอย่างน้อย 11 ราย
กลุ่มฮิซบุลเลาะห์ในเลบานอนปฏิเสธอย่างชัดเจนว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ซึ่งขัดแย้งกับคำกล่าวอ้างของอิสราเอล
กองทัพอิสราเอลกล่าวว่ามีการยิงขีปนาวุธ ไม่ใช่โดรน โจมตีมัจดาลชามส์
อย่างไรก็ตาม สื่ออนาโดลูของตุรกี รายงานคำพูดของชาวดรูซจากเมืองดังกล่าวที่ยืนยันว่า เป็นขีปนาวุธไอรอนโดมของอิสราเอลที่โจมตี
Druze from Majdal Shams confirms it was an Israeli iron dome missile that struck the Syrian city. He is talking Arabic and is a syrian passport holder. pic.twitter.com/J2p9qDMlcX
— Syrian Girl 🇸🇾 (@Partisangirl) July 27, 2024
ในแถลงการณ์ที่ออกเมื่อเย็นวันเสาร์ ฮิซบุลเลาะห์ยืนยันว่า “กลุ่มไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ กับเหตุการณ์ดังกล่าวเลยและปฏิเสธข้อกล่าวหาเท็จทั้งหมดในเรื่องนี้”
หนังสือพิมพ์เยดิโอท อาโรนอท (Yedioth Ahronoth) ของอิสราเอลรายงานว่า หน่วยพยาบาลของอิสราเอลรายงานว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บ 30 ราย รวมถึง 7 รายอาการสาหัส จากจรวดดังกล่าว โดยระบุว่าสถานการณ์ดังกล่าว “น่าเศร้าสลดอย่างยิ่ง”
หนังสือพิมพ์อิสราเอล ฮายอม รายงานว่าการสอบสวนเบื้องต้นเปิดเผยถึงความยากลำบากในการสกัดกั้นขีปนาวุธในเมืองมัจดัลชามส์ด้วยระบบป้องกันทางอากาศ
ในส่วนของบริษัทการแพร่ภาพกระจายเสียงแห่งอิสราเอลได้อ้างอิงแหล่งข่าวที่กล่าวว่า “เมืองมัจดัลชามส์ไม่ได้เตรียมพร้อมสำหรับการโจมตีเช่นนี้ ประชาชนไม่ได้รับการอพยพและเมืองไม่ได้รับการเสริมกำลัง”
การยกระดับสถานการณ์ที่น่าจับตา
สื่ออิสราเอลรายงานว่า นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู จัดการประชุมเรื่องความมั่นคงในกรุงวอชิงตัน หลังจากได้รับข้อมูลสรุปเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในมัจดาลชามส์
ช่อง 12 ของอิสราเอลอ้างคำพูดของเจ้าหน้าที่ที่ใกล้ชิดกับเนทันยาฮูว่า การโจมตีในเมืองมัจดัลชามส์อาจนำไปสู่การยกระดับสถานการณ์การเผชิยหน้าอย่างรุนแรงในพื้นที่ทางเหนือ
ในส่วนของรัฐมนตรีกลาโหมของอิสราเอล โยอาฟ กัลแลนท์ ก็ได้จัดการประชุมปรึกษากับผู้นำทหารหลังเหตุระเบิดในเขตกาลิลีและโกลานอีกด้วย
ช่อง 12 อ้างคำพูดของนายอิสราเอล คัทซ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศว่า “กลุ่มฮิซบุลเลาะห์ได้ข้ามเส้นแดงแล้ว”
หนังสือพิมพ์อิสราเอล ฮายอม อ้างอิงเจ้าหน้าที่ทหารที่กล่าวว่าการตอบโต้การโจมตีในเมืองมัจดัลชามส์ “จะเป็นการตอบโต้ที่กว้างขวางและเราอาจต้องพิจารณาไปถึงการทำสงคราม”
เจ้าหน้าที่สื่อสัมพันธ์ของฮิซบุลเลาะห์ โมฮัมหมัด อาฟีฟ บอกกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่าเขา “ปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ทำโดยสื่อของศัตรูเกี่ยวกับการที่เรามุ่งเป้าโจมตีเมืองมัจดัลชามส์”
ผู้นำพรรคสหภาพแห่งชาติอิสราเอล เบนนี แกนท์ซ กล่าวว่า “ถึงเวลาแล้วที่จะสรุปข้อตกลงแลกเปลี่ยน” กับกลุ่มต่อต้านปาเลสไตน์ในกาซา “และมุ่งเป้าการยกระดับสถานการณ์ไปที่แนวรบทางเหนือ”
นายอิทามาร์ เบน-กวีร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงความมั่นคงแห่งชาติของอิสราเอล เรียกร้องให้นายเนทันยาฮูเปิดฉากสงครามกับกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ทันที ตามรายงานของนายวัลลา
ส่วนเบซาเลล สโมทริช รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของอิสราเอล กล่าวว่า “ถึงเวลาที่ต้องดำเนินการแล้ว เนทันยาฮูต้องกลับประเทศทันที และเลบานอนทั้งหมดต้องจ่ายราคาที่ต้องจ่าย” เขาเรียกร้องให้ลอบสังหารฮัสซัน นัสรุลเลาะห์ เลขาธิการกลุ่มฮิซบุลเลาะห์ เพื่อตอบโต้การโจมตีดังกล่าว
สำนักงานนายกรัฐมนตรีอิสราเอลกล่าวว่า เนทันยาฮูได้สั่งให้เดินทางกลับจากวอชิงตันโดยด่วนและได้หารือเบื้องต้นกับเลขานุการทหารทันทีหลังจากเหตุการณ์ที่มัจดาลชามส์
สำนักงานของนายกรัฐมนตรีเลบานอน นาจิบ มิคาติ ประณามความรุนแรงต่อพลเรือน และเรียกร้องให้ยุติการสู้รบในทุกแนวรบโดยทันที
เว็บไซต์ข่าวอเมริกัน Axios อ้างอิงข้อมูลของเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ที่แสดงความกังวลว่าการโจมตีนี้ ว่าอาจเป็นชนวนให้เกิดสงครามระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่รัฐบาลของไบเดนพยายามหลีกเลี่ยงมาตลอดสิบเดือนที่ผ่านมา
ความตึงเครียดที่เพิ่มมากขึ้น
นับตั้งแต่สงครามอิสราเอลในฉนวนกาซาเริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม ขบวนการฮิซบุลเลาะห์ของเลบานอนได้มีส่วนร่วมโดยตรง แต่ในขอบเขตที่จำกัดในสงครามต่อต้านการยึดครองของอิสราเอล
จากแหล่งข่าวของกลุ่มฮิซบุลเลาะห์ ระบุว่า ขบวนการนี้ได้ดำเนินการทางทหารไปแล้ว 1,194 ครั้งในช่วง 250 วันแรกของสงคราม ส่งผลให้ทหารอิสราเอลเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บมากกว่า 2,000 นาย
อิสราเอลได้ยึดครองบางส่วนของเลบานอนมานานหลายทศวรรษและเพิ่งถอนกำลังออกจากประเทศในปี 2000 หลังจากการต่อต้านอย่างแข็งกร้าวของชาวเลบานอนภายใต้การนำของฮิซบอลเลาะห์
อิสราเอลพยายามที่จะยึดครองเลบานอนอีกครั้งในปี 2006 แต่ไม่สำเร็จ ซึ่งเลบานอนถือเป็นชัยชนะครั้งใหญ่ต่ออิสราเอล
อย่างไรก็ตาม อิสราเอลยังคงยึดครองบางส่วนของเลบานอน ได้แก่ พื้นที่ฟาร์มชีบา
ฮิซบอลเลาะห์ได้สาบานว่าจะยึดคืนทุกตารางนิ้วของเลบานอนที่ถูกอิสราเอลยึดครองซึ่งขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศ