เชลยหญิงเผยความจริง เธอบาดเจ็บจากการโจมตีของอิสราเอล ไม่ใช่ฝีมือฮามาส

โนอา อาร์กามานี

โนอา อาร์กามานี เชลยหญิงชาวอิสราเอลที่ได้รับการปล่อยตัวจากการกักขังของกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซา ได้ออกมาเปิดเผยความจริงว่าอาการบาดเจ็บของเธอเกิดจากการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลระหว่างปฏิบัติการกู้ภัย ไม่ใช่จากการทำร้ายของกลุ่มฮามาสอย่างที่มีการรายงานในสื่อบางแห่ง

เธอได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาว่านักรบปาเลสไตน์ทำร้ายร่างกายหรือโกนหัวเธอ โดยย้ำว่าอาการบาดเจ็บของเธอเป็นผลจากการโจมตีของอิสราเอลเอง พร้อมเน้นย้ำว่าการปล่อยตัวนักโทษชาวอิสราเอลที่เหลือควรเป็นภารกิจสำคัญที่สุดของรัฐบาล ขณะที่สงครามในฉนวนกาซายังคงคร่าชีวิตผู้คนจำนวนมาก

โนอา อาร์กามานี เชลยหญิงชาวอิสราเอลที่ได้รับการปล่อยตัวจากการถูกกักขังของกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซา กล่าวเมื่อวันศุกร์ 23 ส.ค.ว่า อาการบาดเจ็บของเธอเกิดจากการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลระหว่างปฏิบัติการกู้ภัย ไม่ใช่จากการโจมตีของกลุ่มฮามาส

ก่อนหน้านี้เมื่อวันพุธ อาร์กามานีได้ให้สัมภาษณ์กับนักการทูตจากประเทศกลุ่ม G7 ในกรุงโตเกียว โดยเธอเล่าถึงเหตุการณ์เลวร้ายที่ต้องเผชิญหลังจากถูกจับตัวระหว่างการโจมตีเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม แต่หลังจากที่สื่ออิสราเอลรายงานว่าเธอถูกทำร้ายโดยนักรบฮามาส อาร์กามานีได้ออกแถลงการณ์ผ่านอินสตาแกรมเพื่อปฏิเสธข้อกล่าวหานี้ โดยยืนยันว่าคำพูดของเธอถูกตีความผิดพลาด

“ฉันไม่สามารถเพิกเฉยต่อสิ่งที่เกิดขึ้นที่นี่ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาได้ โดยการนำคำพูดของฉันไปใช้ในบริบทที่ไม่ถูกต้อง” เธอเขียนโดยอ้างถึงการรายงานข่าวของสื่ออิสราเอลเกี่ยวกับสุนทรพจน์ของเธอที่โตเกียว

“[สมาชิกฮามาส] ไม่ได้ทุบตีฉันในขณะที่ฉันถูกกักขัง และพวกเขาไม่ได้ตัดผมฉันด้วย ฉันได้รับบาดเจ็บจากกำแพงที่ถล่มลงมาซึ่งเกิดจากโจมตีทางอากาศของกองทัพอิสราเอล” เธอกล่าวเสริม

“ในฐานะเหยื่อของเหตุการณ์ 7 ตุลาคม ฉันไม่ต้องการตกเป็นเหยื่อของสื่ออีกต่อไป”

อาร์กามานี วัย 26 ปี เป็นหนึ่งในเชลยชาวอิสราเอล 4 คนที่ได้รับการช่วยเหลือระหว่างทหารอิสราเอลเปิดปฏิบัติการพิเศษโจมตีค่ายผู้ลี้ภัยนูเซย์รัตและเดียร์ อัล-บาลาห์ในฉนวนกาซา ซึ่งมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 236 ราย โดยส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและเด็ก

ในคำให้การของเธอ อาร์กามานีกล่าวว่าการที่เธอรอดชีวิตมาได้ถือเป็น “ปาฏิหาริย์”

“มันเป็นปาฏิหาริย์เพราะฉันรอดชีวิตมาจากเหตุการณ์ 7 ตุลาคม และฉันรอดชีวิตจากเหตุระเบิดครั้งนี้ และฉันยังรอดชีวิตจากการช่วยเหลืออีกด้วย”

การโจมตีอิสราเอลที่นำโดยกลุ่มฮามาสเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม คร่าชีวิตผู้คนไปราว 1,200 ราย และจับกุมตัวไปราว 250 ราย

ยังมีคนถูกควบคุมตัวอยู่ภายในฉนวนกาซาอยู่ 105 คน โดยกองทัพอิสราเอลระบุว่ามีผู้เสียชีวิตแล้ว 34 คน

อาร์กามานีเน้นย้ำว่า การปล่อยตัวเชลยชาวอิสราเอลที่เหลืออยู่ควรเป็นภารกิจสำคัญที่สุดสำหรับรัฐบาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่ออาวินาทัน ออร์ แฟนหนุ่มของเธอยังคงถูกกักขังอยู่ในฉนวนกาซา

“อวินาทัน แฟนของฉันยังอยู่ที่นั่น และเราต้องพาพวกเขากลับมาก่อนที่มันจะสายเกินไป เราไม่อยากสูญเสียผู้คนไปมากกว่านี้” อาร์กามานีกล่าว

สงครามในฉนวนกาซาที่ดำเนินมายาวนานกว่า 10 เดือน ได้คร่าชีวิตผู้คนไปแล้วอย่างน้อย 40,334 ราย ตามข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขของปาเลสไตน์ แม้กาตาร์ อียิปต์ และสหรัฐฯ จะพยายามไกล่เกลี่ยให้เกิดข้อตกลงหยุดยิงและการปล่อยตัวเชลย แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ