เศรษฐกิจอิสราเอลท่ามกลางสงครามกับฮิซบุลเลาะห์: จะรอดพ้นหรือไม่?

24 ก.ย. 67ดิอีโคโนมิสต์ สื่อด้านการเงินและเศรษฐศาสตร์ระดับโลก เผยแพร่รายงานในหัวข้อ “เศรษฐกิจอิสราเอลจะรอดพ้นจากสงครามเต็มรูปแบบกับฮิซบุลเลาะห์ได้หรือไม่?” รายงานกล่าวถึงวิกฤตทางเศรษฐกิจที่กำลังถาโถมเข้าสู่ประเทศ ท่ามกลางการปะทะที่ยืดเยื้อกับฮิซบุลเลาะห์ ซึ่งส่งผลกระทบหลายด้าน ตั้งแต่การขาดดุล การลงทุนที่ลดลง ไปจนถึงปัญหาการขาดแคลนแรงงานและภาคก่อสร้างที่ชะงักงัน สถานการณ์เหล่านี้ทำให้อนาคตทางเศรษฐกิจของอิสราเอลเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน

สรุปประเด็นสำคัญจากรายงานนี้:

1.การเติบโตทางเศรษฐกิจที่ต่ำกว่าคาดการณ์: อิสราเอลมีการเติบโตทางเศรษฐกิจเพียง 0.7% ในช่วงเดือนเมษายนถึงมิถุนายน ซึ่งต่ำกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ถึง 5.2 จุด แม้จะมีแรงงานที่ถูกเรียกตัวกลับไปทำงานหลังสิ้นสุดภารกิจทางทหารกว่า 300,000 คน แต่การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจยังคงไม่เป็นไปตามที่คาดไว้

2. ปัญหาการขาดดุลทางการคลัง: เบซาเลล สโมทริช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของอิสราเอล ต้องขอเพิ่มการขาดดุลฉุกเฉินเป็นครั้งที่สองในปีนี้ จากการใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นเพื่อสนับสนุนกองทัพ ขณะที่การปะทะยังคงยืดเยื้อ การขาดดุลคาดว่าจะสูงถึง 8.1% ของ GDP ซึ่งเกือบสามเท่าจากที่คาดการณ์ไว้ก่อนสงคราม

3. การไหลออกของเงินทุน: ในช่วงเดือนพฤษภาคมถึงกรกฎาคม การไหลออกของเงินทุนจากธนาคารอิสราเอลไปยังต่างประเทศเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า มูลค่ารวมกว่า 2 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นผลจากความกังวลของนักลงทุนต่ออนาคตทางเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน

4. ความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจ: หากสงครามขยายตัวไปยังศูนย์กลางทางเศรษฐกิจอย่างเยรูซาเล็มหรือเทลอาวีฟ เศรษฐกิจของอิสราเอลอาจได้รับผลกระทบหนักยิ่งกว่าที่เคยเกิดขึ้นหลังเหตุการณ์ 7 ตุลาคม โดยมีความเสี่ยงต่อการล้มละลายของธนาคารและการร่วงลงของค่าเงินเชเขล

5. ความกังวลของนักลงทุน: การผันผวนของค่าเงินเชเขลและการถอนเงินทุนจำนวนมากจากธนาคารอิสราเอลแสดงถึงความกังวลของนักลงทุน สถาบันจัดอันดับเครดิตอย่าง Fitch และ Moody’s ต่างลดอันดับความน่าเชื่อถือของอิสราเอลแล้ว และอาจปรับลดลงอีกหากสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น

6. อุตสาหกรรมก่อสร้างที่หดตัว: แรงงานปาเลสไตน์กว่า 80,000 คนถูกปฏิเสธใบอนุญาตทำงาน ส่งผลให้อุตสาหกรรมก่อสร้างหดตัวลง 40% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ส่งผลให้โครงการก่อสร้างและการซ่อมแซมโครงสร้างพื้นฐานชะงักงัน สถานการณ์ยิ่งเลวร้ายลงจากการโจมตีที่เพิ่มขึ้นของฮิซบุลเลาะห์

7. อัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น: เงินเฟ้อในอิสราเอลเพิ่มขึ้นถึง 3.6% ในเดือนสิงหาคม ซึ่งเกิดจากปัญหาห่วงโซ่อุปทานและการขาดแคลนแรงงาน และหากสงครามยังคงขยายตัว ปัญหาเงินเฟ้ออาจยิ่งทวีความรุนแรงขึ้น

8. ความไม่แน่นอนในอนาคต: เศรษฐกิจอิสราเอลอาจเผชิญกับปัญหาที่เพิ่มขึ้นหากสงครามยังคงยืดเยื้อ โดยค่าใช้จ่ายทางทหารยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ความไม่แน่นอนนี้ส่งผลให้นักเศรษฐศาสตร์ต่างมองว่าสถานการณ์จะเลวร้ายลงอีก แม้กระทั่งเบซาเลล สโมทริช ที่เคยเป็นคนมองโลกในแง่ดีก็แสดงท่าทีเหนื่อยล้ากับสถานการณ์ที่ยืดเยื้อนี้