ที่รักของฉัน” บทเพลงจากจดหมาย “นัสรุลเลาะห์” สู่เสียงร้องของ “จูเลีย บูทรอส”

"Ahibaii - ที่รักของฉัน" บทเพลงที่ไม่เพียงแค่เป็นเพลง แต่เป็นสัญลักษณ์ของการเสียสละ ความกล้าหาญ และความทุ่มเทในการปกป้องประเทศเลบานอน

บทเพลง Ahibaii (อะฮิบบาอี) หรือ “ที่รักของฉัน” ขับร้องโดยนักร้องคริสเตียนชาวเลบานอนชื่อดัง จูเลีย บูทรอส เป็นผลงานที่ถ่ายทอดความหมายจากจดหมายของ ซัยยิด ฮัสซัน นัสรุลเลาะห์ ผู้นำขบวนการฮิซบุลเลาะห์ ซึ่งเขียนขึ้นในปี 2006 ในช่วงสงครามเลบานอน-อิสราเอล เพื่อส่งกำลังใจให้นักรบฮิซบุลเลาะห์ที่ปกป้องแผ่นดินเกิด บทเพลงนี้ไม่เพียงแค่เป็นเพลง แต่เป็นสัญลักษณ์ของการเสียสละ ความกล้าหาญ และความทุ่มเทในการปกป้องประเทศเลบานอน

จูเลีย บูทรอส (Julia Boutros) เกิดเมื่อวันที่ 1 เมษายน 1968 ในครอบครัวคริสเตียนกรีกออร์โธดอกซ์ ที่กรุงเบรุต ท่ามกลางความวุ่นวายของสงครามกลางเมืองเลบานอน ซึ่งกลายเป็นแรงผลักดันให้เธอใช้ดนตรีเป็นเครื่องมือในการเรียกร้องความยุติธรรมและเสรีภาพ ผลงานเพลงของเธอไม่ใช่แค่เพื่อความบันเทิง แต่เป็นการแสดงจุดยืนและเป็นแรงบันดาลใจแก่ผู้คนทั่วภูมิภาคอาหรับ

ในเดือนตุลาคม 2006 หลังสงครามฤดูร้อนระหว่างเลบานอนและอิสราเอล จูเลียได้เปิดตัวซิงเกิล Ahibaii โดยนำคำจากจดหมายนัสรุลเลาะห์มาใส่ในบทเพลง เนื้อหาของเพลงนี้ยกย่องความกล้าหาญของนักรบฮิซบุลเลาะห์ และสะท้อนถึงการเสียสละที่พวกเขาทำเพื่อปกป้องดินแดน ทำนองเพลงถูกแต่งโดยพี่ชายของเธอ ซิอาด บูทรอส และเรียบเรียงดนตรีโดยมิเชล ฟาเดล ทำให้ Ahibaii เป็นบทเพลงที่ทรงพลังและมีความหมายลึกซึ้งในใจของผู้ฟัง

เนื้อเพลงของ Ahibaii ถ่ายทอดคำพูดของนัสรุลเลาะห์ที่ส่งถึงนักรบว่า: “ฉันได้ฟังสารของพวกคุณ ซึ่งเต็มไปด้วยเกียรติและศรัทธา พวกคุณคือชายแห่งพระเจ้าในสนามรบ คำมั่นของคุณคือคำสัญญาที่แท้จริง คุณคือชัยชนะที่กำลังมาถึง และคุณคือผู้นำที่จะทำให้แผ่นดินนี้เป็นอิสระ”

เนื้อหาเพลงนี้ไม่เพียงกล่าวถึงความกล้าหาญ แต่ยังเน้นถึงความเชื่อมั่นและศรัทธาในพลังของนักรบ ที่พร้อมจะเปลี่ยนแปลงอนาคตของชาติ เนื้อหาในเพลงสะท้อนถึงความศักดิ์สิทธิ์และพลังแห่งความศรัทธาที่นักรบได้รับจากการต่อสู้เพื่อความยุติธรรม จบลงด้วยคำมั่นสัญญาว่าพวกเขาจะเป็นผู้นำการสร้างอารยธรรมใหม่ และความกล้าหาญของพวกเขาจะอยู่ในความทรงจำของชาติ เช่นเดียวกับต้นซีดาร์แห่งภูเขาเลบานอน

เสียงร้องของจูเลีย บูทรอสในเพลงนี้มีพลังดึงดูดและสะกดจิตวิญญาณผู้ฟัง เสียงของเธอไม่เพียงแต่ถ่ายทอดเนื้อหา แต่ยังส่งผ่านความเชื่อมั่นในความยุติธรรมและเสรีภาพ โดย Ahibaii กลายเป็นบทเพลงที่ยกย่องการเสียสละ และเป็นสัญลักษณ์แห่งการต่อสู้เพื่อปกป้องแผ่นดินเกิดอย่างแท้จริง

การจำหน่ายเพลง Ahibaii ประสบความสำเร็จอย่างมาก โดยทำรายได้กว่า 3 ล้านดอลลาร์ ซึ่งถูกนำไปช่วยเหลือครอบครัวของนักรบฮิซบุลเลาะห์ที่เสียชีวิตรวมทั้งครอบครัวชาวเลบานอนที่สูญเสียในสงคราม รายได้นี้สูงกว่าเป้าหมายเดิมถึงสามเท่า แสดงให้เห็นถึงความผูกพันของประชาชนเลบานอนกับขบวนการฮิซบุลเลาะห์ที่แน่นแฟ้นผ่านบทเพลงนี้

นอกจาก Ahibaii จูเลียยังมีบทเพลงอื่นที่สนับสนุนขบวนการต่อต้าน เช่น เพลง Al-Haq Silahi (ความชอบธรรมคืออาวุธของฉัน) ซึ่งเธอใช้เพื่อเรียกร้องสิทธิและความยุติธรรมให้แก่ชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซา เพลงเหล่านี้ตอกย้ำถึงบทบาทของจูเลียในฐานะศิลปินที่มีจุดยืนชัดเจน และใช้ดนตรีเป็นเครื่องมือในการต่อสู้เพื่อเสรีภาพ

แม้ว่าซัยยิด ฮัสซัน นัสรุลเลาะห์อาจไม่ได้มีชีวิตอยู่จนปัจจุบัน แต่เขายังคงเป็นสัญลักษณ์แห่งความหวังและความเข้มแข็งสำหรับชาวเลบานอน ทั้งมุสลิมและคริสเตียน ซึ่งเห็นในตัวเขาผู้นำที่ยืนหยัดต่อการต่อสู้เพื่อความยุติธรรมและอิสรภาพ บทเพลงของจูเลียยังคงมีพลัง และเป็นแรงบันดาลใจให้คนรุ่นหลังตลอดมา

แปลความเนื้อเพลง Ahibaii 

“ที่รักของฉัน
ฉันได้รับฟังสารของพวกคุณ มันเต็มไปด้วยเกียรติและศรัทธา
พวกคุณคือชายแห่งพระเจ้าในสนามรบ
คำมั่นของคุณคือคำสัญญาที่แท้จริง และพวกคุณคือชัยชนะที่รอคอย”

“พวกคุณคือผู้ที่ยืนหยัดอย่างเข้มแข็งจากภูเขาแห่งแสง
ด้วยพวกคุณ นักโทษจะได้รับการปลดปล่อย และแผ่นดินจะเป็นอิสระ
ด้วยหมัดและความโกรธของพวกคุณ บ้านและเกียรติของเราจะได้รับการปกป้อง”

“พวกคุณคือผู้สร้างอารยธรรม และเป็นผู้นำในการปลุกจิตสำนึกแห่งคุณค่า
พวกคุณจะคงอยู่ตลอดไป ดั่งเช่นต้นซีดาร์ที่มั่นคงในยอดเขาสูง”

“พวกคุณคือความภาคภูมิใจของชาติเรา คุณคือผู้นำและผู้ปกครอง
คุณคือมงกุฎของเรา และพวกคุณคือผู้นำที่แท้จริง”

“ฉันขอจูบเท้าที่สูงส่งของพวกคุณ ที่เกียรติภูมิเชิดชู
มันหยั่งรากลึกในดินแดนของเรา และจะไม่มีวันหวาดกลัวหรือสั่นไหว”

“ด้วยพวกคุณ เราจะเปลี่ยนแปลงโลก และให้ชะตากรรมได้ยินเสียงของเรา
ด้วยพวกคุณ เราจะสร้างวันพรุ่งนี้ที่ดีกว่า และจะก้าวต่อไปเพื่อชัยชนะ”