รายงานจาก เดอะวอชิงตันโพสต์ เผยแพร่ 4 ต.ค. ระบุว่า ขีปนาวุธของอิหร่านสามารถเจาะทะลุการป้องกันของอิสราเอลและเข้าโจมตีฐานทัพและหน่วยข่าวกรองอิสราเอลอย่างน้อย 3 แห่ง เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในคืนวันอังคารที่ผ่านมา โดยมีการยิงขีปนาวุธพิสัยไกลของอิหร่านกว่า 24 ลูก สามารถเจาะการป้องกันและโจมตีฐานทัพและสถานที่สำคัญหลายแห่ง
วิดีโอและภาพที่ได้รับการตรวจสอบโดย เดอะวอชิงตันโพสต์ แสดงให้เห็นว่ามีการยิงขีปนาวุธอย่างน้อย 20 ลูกลงที่ฐานทัพอากาศเนวาทิม (Nevatim) ในทะเลทรายเนเกฟ ทางตอนใต้ของอิสราเอล และอีก 3 ลูกลงที่ฐานทัพเทลนอฟ (Tel Nof) ในภาคกลางของอิสราเอล นักวิเคราะห์ที่ได้ให้สัมภาษณ์กับ เดอะวอชิงตันโพสต์ ระบุว่าภาพที่ปรากฏในวิดีโอสอดคล้องกับการโจมตีโดยตรงมากกว่าจะเป็นเศษซากจากการสกัดกั้นขีปนาวุธ ขณะที่อีกวิดีโอหนึ่งแสดงให้เห็นว่ามีขีปนาวุธสองลูกตกใกล้กับเทลอาวีฟที่ซินีมา ซิตี้ กลิลอต (Cinema City Glilot) และฮอด ฮาชารอน (Hod Hasharon) ใกล้กับสำนักงานใหญ่ของมอสสาด (Mossad) หน่วยข่าวกรองอิสราเอล ซึ่งทำให้เกิดหลุมขนาดใหญ่สองแห่ง
เดอะวอชิงตันโพสต์ ชี้ว่า ข้อมูลนี้เป็นข้อสงสัยถึงความเสียหายที่ฐานทัพอิสราเอลได้รับ และชี้ให้เห็นว่าอิหร่านสามารถหลบหลีกระบบป้องกันขีปนาวุธของอิสราเอลได้มากกว่าที่เคยเกิดขึ้นในเดือนเมษายนที่ผ่านมา เมื่อขณะนั้นมีเพียง 2 ลูกเท่านั้นที่เจาะการป้องกันได้
แม้ว่าในครั้งนี้ กองทัพอิสราเอล จะระบุว่าระบบป้องกันทางอากาศสามารถตรวจจับขีปนาวุธได้ถึง 180 ลูก แต่ก็ไม่ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับจำนวนสถานที่ที่ถูกโจมตี โดยทั้งกระทรวงกลาโหมและกองทัพอิสราเอล ได้ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นต่อรายงานการตรวจสอบของ เดอะวอชิงตันโพสต์ ในครั้งนี้
รายงานของ เดอะวอชิงตันโพสต์ ยังได้แสดงภาพที่แสดงให้เห็นขีปนาวุธจำนวนมากพุ่งไปยังฐานทัพอากาศเนวาทิม โดยมีแสงวาบกลางอากาศที่คาดว่าจะเป็นการสกัดกั้นจากระบบป้องกันของอิสราเอล นอกจากนี้ยังมีลูกไฟและควันพวยพุ่งในหลายจุดซึ่งบ่งชี้ถึงการโจมตีอย่างน้อย 20 จุด
นักวิจัยอย่าง เจฟฟรีย์ ลูอิส จากสถาบันการศึกษานานาชาติมิดเดิลเบอรี่ในแคลิฟอร์เนีย ระบุว่า ยิ่งขีปนาวุธถูกยิงจากระยะไกลเท่าใด ความคลาดเคลื่อนของการโจมตีก็จะมากขึ้นเท่านั้น
แม้จะมีการป้องกันจากระบบ แอร์โรว์ 2 และ แอร์โรว์ 3 ของอิสราเอล ซึ่งออกแบบมาเพื่อป้องกันขีปนาวุธพิสัยไกลจากอิหร่าน แต่รายงานของ เดอะวอชิงตันโพสต์ ระบุว่า อิหร่านยังคงสามารถโจมตีฐานทัพเนวาทิมได้สำเร็จ โดยภาพถ่ายดาวเทียมความละเอียดกลางจาก Planet Labs เมื่อวันพุธ 2 ต.ค. แสดงให้เห็นอาคารที่ถูกทำลายอย่างน้อย 1 แห่งที่ฐานทัพดังกล่าว ขณะที่ภาพความละเอียดสูงของอีกส่วนหนึ่งของฐานแสดงให้เห็นหลุมขนาดใหญ่บนหลังคาโรงเก็บเครื่องบิน
อีกวิดีโอหนึ่งที่ยืนยันโดย เดอะวอชิงตันโพสต์ แสดงให้เห็นกลุ่มควันจากการโจมตีฐานทัพเทลนอฟ ซึ่งมีการระเบิดเพิ่มเติมเกิดขึ้น นอกจากนี้ วิดีโอยังแสดงหลุมขนาดใหญ่บนพื้นที่โรงเรียนแห่งหนึ่งใกล้กับฐานทัพ โดยผนังของโรงเรียนพังลง เผยให้เห็นห้องเรียนที่ว่างเปล่า
เดอะวอชิงตันโพสต์ รายงานว่า แม้จะยังไม่มีข้อมูลชัดเจนเกี่ยวกับชนิดของขีปนาวุธที่ถูกใช้ แต่สื่อทางการของอิหร่านอย่าง Mehr News Agency ระบุว่า ขีปนาวุธที่ใช้ในครั้งนี้ประกอบด้วย กอดร์ (Ghadr) อิมาด (Emad) และฟัตตะห์-1 (Fattah-1) โดยอิหร่านระบุว่าขีปนาวุธนี้สามารถเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงเพื่อหลีกเลี่ยงเครื่องสกัดกั้นได้