MEE – คณะผู้แทนกลุ่มฮูซีเดินทางเข้าซาอุดีอาระเบียเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่สงครามเยเมนเริ่มต้นขึ้น แต่แหล่งข่าวหนึ่งบอกว่า เป็นการหารือเกี่ยวกับความรุนแรงแถบชายแดน
“ฮูซี” ขบวนการเคลื่อนไหวในเยเมนได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปยังประเทศซาอุดีอาระเบียเพื่อหารือยุติสงครามในเยเมน ตามที่เจ้าหน้าที่ฮูซี 2 คน และแหล่งที่มาใกล้ชิดกับอดีตประธานาธิบดีอาลี อับดุลลาห์ ซาเลห์ ระบุ
เจ้าหน้าที่ฮูซีสองคนที่ไม่เปิดเผยชื่อยืนยันการเดินทางครั้งนี้กับสำนักข่าวรอยเตอร์ โดยบอกว่า การเดินทางมีขึ้นในวันจันทร์ (7 มี.ค.) ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นครั้งแรกที่กลุ่มฮูซีเดินทางเข้าไปในราชอาณาจักรซาอุดิอาระเบีย นับตั้งแต่สงครามเยเมนเริ่มขึ้น เมื่อเดือนมีนาคม 2015
แหล่งข่าวใกล้ชิดประธานาธิบดีซาเลห์ที่ถูกโค่นล้มจากการจลาจลในปี 2012 บอกกับสำนักข่าว MEE ว่า คณะผู้แทนฮูซีได้เดินทางไปยังประเทศซาอุดีอาระเบีย แต่ไม่มีตัวแทนจากอดีตประธานาธิบดี
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่าการเจรจาระหว่างฮูซีกับซาอุดีอาระเบียเริ่มต้นขึ้นหลังการเตรียมการเจรจาอย่างลับๆ 1 สัปดาห์
นักกิจกรรมชาวซาอุฯ ในริยาด ซึ่งขอไม่เปิดเผยชื่อบอกกับสำนักข่าวมี MEE ว่า มีการแลกเปลี่ยนนักโทษระหว่างฮูซีและซาอุดีอาระเบียก่อนที่จะการเจรจาจะเริ่มต้น
คลิปที่ส่งมาจากนักกิจกรรมให้สำนักข่าว MEE ซึ่งยังไม่สามารถตรวจสอบข้อเท็จจริงได้ เผยให้เห็นยานพาหนะของฮูซีข้ามไปซาอุดิอาระเบียเพื่อแลกเปลี่ยนนักโทษ โดยไม่มีรายละเอียดใดๆ เพิ่มเติม
https://twitter.com/roridonaghy/status/707203847048077312
โฆษกพันธมิตรภายใต้การนำของซาอุฯ ไม่ตอบคำถามเมื่อสำนักข่าวรอยเตอร์ถามความคิดเห็นเรื่องการเจรจาครั้งนี้ และเจ้าหน้าที่ซาอุดีอาระเบียในกรุงลอนดอนก็ไม่ออกความเห็นต่อสำนักข่าว MEE เช่นกัน
นักข่าวเยเมน ฮุสเซน อัลบุคัยติ ที่มีสายสัมพันธ์ใกล้ชิดกับกลุ่มฮูซี บอกกับ MEE ว่า การเจรจาหลีกเลี่ยงกลไกของสหประชาชาติในการเป็นตัวกลางเจรจาสันติภาพ
“ซาอุดีอาระเบียและฮูซีจะพูดคุยเพื่อแสวงหาวิธีการที่จะสร้างความไว้วางใจและยุติสงครามในเยเมน เพราะการ เจรจาก่อนหน้านี้ทั้งหมดที่มีสหประชาชาติไกล่เกลี่ยพบว่ามีหลายอย่างที่สูญหายไปในการแปลความ ดังนั้นจึงเป็นสิ่งที่ดีกว่าที่จะพบปะกันโดยตรงสำหรับทุกฝ่ายเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับขั้นตอนที่จะยุติสงคราม”
อย่างไรก็ดี เขาเสริมว่า นั่นนำมาซึ่งแรงกระตุ้นที่นำมาสู่การพุดคุยเพื่อแลกเปลี่ยนนักโทษต่อไป
“นอกจากนี้ยังมีการประชุมชนเผ่าเพื่อเปิดช่องทางแห่งความไว้วางใจสำหรับการแลกเปลี่ยนนักโทษต่อไป ผู้อาวุโสจากทั้งสองฝ่ายได้พบปะและนี่คือสิ่งที่ได้เกิดขึ้นหลังจากก่อนหน้านี้เกิดความตึงเครียดในชายแดนของทั้งสองประเทศ” เขากล่าว
“เพราะการต่อสู้ในชายแดน [ระหว่างเยเมนและซาอุดีอาระเบีย] ส่วนใหญ่จะส่งผลกระทบต่อชนเผ่านั่นเอง ดังนั้นพวกเขาจึงได้มาพบกันเพื่อดูว่าอะไรที่พวกเขาสามารถทำได้เพื่อช่วยสร้างความเข้าใจและความไว้วางใจระหว่างทั้งสองฝ่าย”
มีนาคม 2015 ซาอุดิอาระเบียร่วมกับพันธมิตรชาติอาหรับ เปิดปฏิบัติการเพื่อผลักดันนักรบฮูซีที่ไล่กวาดยึดพื้นที่จากฐานที่มั่นทางตอนเหนือที่เมืองซะดา และลงมายึดอำนาจกรุงซานาเมืองหลวง บีบให้ฮาดีต้องหนีไปกรุงริยาด
ผู้นำซาอุดีอาระเบียมองว่าการเคลื่อนไหวฮูซีได้กับการรับการหนุนหลังจากอิหร่านคู่แข่งในภูมิภาค และพวกเขากล่าวว่า พวกเขาจะไม่ยอมให้อิทธิพลของอิหร่านได้มาเติบโตในเยเมนซึ่งเป็นประเทศที่มีชายแดนยาวเหยียดติดกับซาอุดีอาระเบีย
ที่ผ่านมา 12 เดือน การต่อสู้ที่หนักหน่วงได้สังหารพลเรือนเกือบ 9,000 คน ตามที่สหประชาชาติรายงาน และว่าประชาชนมากกว่าร้อยละ 80 จากประชากร 25 ล้านคนของประเทศ ในขณะนี้ต้องการความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม
ทุกฝ่ายในสงครามเยเมนถูกกล่าวหาว่าก่ออาชญากรรมสงคราม อย่างไรก็ตามสหประชาชาติกล่าวในเดือนมกราคมที่ผ่านมาว่า พันธมิตรภายใต้การนำของซาอุฯ มีส่วน “อย่างกว้างขวางและเป็นระบบ” ในการกำหนดเป้าหมายที่เป็นพลเรือน และเสริมว่า การที่พลเรือนถูกทำให้ต้องอดอาหารอย่างจงใจนั้นเป็นกลยุทธ์สงคราม
