ในความขัดแย้งที่ยืดเยื้อและซับซ้อนที่สุดของโลก อาบู โมฮัมหมัด อัล–จูลานี หรือที่รู้จักในชื่อจริงว่า อาเหม็ด อัล–ชารา ผู้นำกลุ่ม ฮายัต ตาห์รีร์ อัล–ชาม (HTS) ซึ่งแยกตัวจากอัลกออิดะห์ ได้กลายเป็นหมากสำคัญในเกมภูมิรัฐศาสตร์ระดับโลก
จากผู้นำที่เคยสังหารหมู่และสร้างความหวาดกลัวให้แก่คนทั้งภูมิภาค สู่การถูกสร้างภาพใหม่ในฐานะ “ผู้นำสายกลาง” ที่ตะวันตกต้องการใช้ประโยชน์ และพยายามแสดงให้เห็นว่าเขาเปลี่ยนไปจากผู้นำที่เกี่ยวข้องกับการสังหารหมู่สู่บทบาทที่ “ยอมรับได้” ในสายตานานาชาติ
แต่คำถามที่ยังคงค้างคาอยู่ก็คือ การเปลี่ยนโฉมหน้าครั้งนี้เกิดจากการสำนึกผิดจริง หรือเป็นเพียงฉากละครในเกมที่ถูกจัดฉากมาอย่างแยบยล เพื่อเป็นเครื่องมือสำคัญในเกมยุทธศาสตร์ที่ซ่อนความรุนแรงไว้ใต้เปลือกสันติภาพ?
จากมือสังหารหมู่สู่ผู้นำ “สายกลาง“: ภาพลวงหรือความจริง?
จูลานีในอดีตเคยเป็นที่จดจำในฐานะผู้นำแนวร่วมนุสรา (Nusra Front) ซึ่งเป็นสาขาของอัลกออิดะห์ในซีเรีย เขาเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์สังหารหมู่ชาวอลาวีในลาตาเกียเมื่อปี 2013 ที่มีผู้เสียชีวิต 190 ราย และอีกหลายร้อยคนถูกจับตัวไปเป็นเชลย รายงานจา ฮิวแมนไรท์วอทช์ บันทึกว่าเหยื่อถูกฆ่าด้วยวิธีอันโหดเหี้ยม เช่น การเผา การตัดศีรษะ และการมัดขา
อย่างไรก็ตาม ในปี 2021 จูลานีกลับปรากฏตัวในบทสัมภาษณ์ของ CNN พูดถึงการเปลี่ยนแปลง “ละทิ้งแนวคิดสุดโต่ง” ของเขา พร้อมประกาศว่าไม่มีแผนจะกำจัดชนกลุ่มน้อยในซีเรีย การแสดงออกเชิงสันติภาพนี้ได้รับการสนับสนุนจากตะวันตก โดยมีสื่ออย่างบีบีซี และเทเลกราฟ พยายามแสดงให้เขาดูเป็น “มิตรต่อความหลากหลาย” แต่ความจริงแล้ว สิ่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ที่ออกแบบมาเพื่อสร้างความชอบธรรมแก่ HTS ในสายตาประชาคมโลก
HTS: จากผู้ก่อการร้าย สู่สินทรัพย์เชิงยุทธศาสตร์ของตะวันตก
ท่ามกลางความขัดแย้งในซีเรีย มหาอำนาจตะวันตกอย่าง สหรัฐฯ และพันธมิตร ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในการสนับสนุน HTS อย่างลับๆ
แม้กลุ่ม HTS จะยังคงอยู่ในบัญชีผู้ก่อการร้ายของสหรัฐฯ แต่ เจมส์ เจฟฟรีย์ อดีตทูตพิเศษของสหรัฐฯ เคยกล่าวว่า HTS เป็น “ตัวเลือกที่แย่น้อยที่สุด” สำหรับการรักษาอิทธิพลของสหรัฐฯ ในภูมิภาค เขายอมรับว่า HTS มีประโยชน์ในฐานะกลุ่มที่ช่วยกดดันรัฐบาลบาชาร์ อัล–อัสซาด
การสนับสนุนกลุ่มนี้จึงปรากฏในหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่สหรัฐฯ ที่จัดหาอาวุธต่อต้านรถถัง TOW ผ่านซีไอเอ ไปจนถึง สหภาพยุโรปยังยกเลิกการคว่ำบาตรน้ำมันในซีเรีย เพื่อให้กลุ่มกบฏอย่าง HTS สามารถขายน้ำมันระดมทุนได้
อิสราเอล เองก็มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุน HTS โดยให้การรักษาพยาบาลนักรบกลุ่มนี้ในโรงพยาบาลของอิสราเอล และสนับสนุนอาวุธเบา รายงานของ Wall Street Journal ระบุว่า อิสราเอลถึงขั้นจ่ายเงินเดือนให้กับนักรบ HTS ในบางพื้นที่ของซีเรีย ขณะที่ Financial Times เผยว่า สหภาพยุโรปยกเลิกการคว่ำบาตรน้ำมัน เพื่อเปิดทางให้กลุ่มกบฏอย่าง HTS ขายน้ำมันและระดมทุน
ผลกระทบ: สงครามที่ไม่สิ้นสุด
การสนับสนุน HTS จากมหาอำนาจตะวันตกช่วยให้กลุ่มนี้สามารถขยายอิทธิพลในเขตอิดลิบ แต่กลับส่งผลให้สงครามในซีเรียยืดเยื้อออกไป พลเรือนผู้บริสุทธิ์กลายเป็นเหยื่อของความรุนแรงที่ไม่สิ้นสุด ขณะที่กระบวนการสันติภาพในซีเรียถูกทำลายลงอย่างไม่มีชิ้นดี การกระทำของตะวันตกที่ดูเหมือนจะสนับสนุน “พันธมิตรสายกลาง” จึงไม่ใช่เพื่อสร้างสันติภาพ แต่สะท้อนให้เห็นว่าเพื่อรักษาผลประโยชน์ของตัวเองในภูมิภาค
บทสรุป: จูลานีในเกมแห่งอำนาจ
การ “เปลี่ยนโฉม” ไม่ได้สะท้อนถึงความตั้งใจในการแก้ไขความผิดพลาดในอดีต แต่เป็นส่วนหนึ่งของเครื่องมือในเกมภูมิรัฐศาสตร์ จูลานีไม่ใช่ผู้นำที่เปลี่ยนแปลงเพื่อสันติภาพ แต่มันคือกลยุทธ์ที่ตะวันตกใช้เพื่อสร้างสินทรัพย์ทางยุทธศาสตร์ในซีเรีย ภายใต้หน้ากากของ “ผู้นำสายกลาง” จูลานียังคงเป็นตัวแทนของความรุนแรงและเกมอำนาจที่เดิมพันด้วยชีวิตของผู้คนในภูมิภาค
ในท้ายที่สุด ภาพลักษณ์ใหม่ของจูลานีอาจไม่ใช่สัญญาณแห่งความเปลี่ยนแปลง แต่คือตัวแสดงในฉากละครที่มหาอำนาจกำกับเพื่อควบคุมสมดุลอำนาจในตะวันออกกลาง ที่เดิมพันด้วยชีวิตของผู้คนและอนาคตของซีเรีย